ผบ.ตร.ส่ง “จักรทิพย์” นำชุดสืบสวนลงพื้นที่อุดรฯ คดี่คดีสำคัญ ยิงพระหมอเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด พร้อมให้ความเป็นธรรมในคดีหนุ่มบิ๊กไบค์ซิ่งแหกด่านโดนกระสุนปืน ตร.ดับ โดยมีการดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดียิงพระอาจารย์บัณฑิต สุปันฑิโต หรือพระหมอ เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่าล่าสุดได้สั่งการให้คณะพนักงานสืบสวนในคดีอาญาสำคัญที่มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุด ลงไปร่วมกับทีมสืบสวนพื้นที่เพื่อช่วยคลี่คลายคดี รวมทั้งเร่งรัดสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ยืนยันว่าการส่งทีมสืบสวนชุดนี้ลงไปไม่ได้เป็นการไปแย่งงาน หรือจับผิด แต่เป็นการไปช่วยกันทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ
โฆษก ตร.ยันให้ความเป็นธรรม หนุ่มบิ๊กไบค์ถูกตำรวจยิง
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายนเรศ โรจน์บุญส่งศรี อายุ 40 ปี ขับจักรยานยนต์ฝ่าด่านตรวจบริเวณสะพานห้วยเล็ก หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แต่เกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้มทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลบริเวณศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทางญาติระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการที่ถูกตำรวจที่ตั้งด่านใช้อาวุธปืนยิงว่า ล่าสุดได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภจว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.คมสัน โยธคล ผกก.สภ.หนองขาม ว่าได้มีการรับกรณีดังกล่าวไว้เป็นคดี โดยจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อ ด.ต.สุพรรณ ชำนิจ ผบ.หมู่ งานปราบปราม สภ.หนองขาม ตำรวจที่ตั้งด่านในวันเกิดเหตุ และรับว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการทางวินัยควบคู่ไปด้วย ขณะเดียวกัน ได้มีการสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าผู้ตายขับขี่จักรยานยนต์ฝ่าด่านเพราะเหตุใด แต่ที่แน่ชัด คือ ผู้ตายไม่สวมหมวกกันน็อก ขณะเดียวกัน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายออกมาจากร้านอาหาร อาจจะมีอาการมึนเมาสุราร่วมด้วย ตำรวจที่ตั้งด่านเมื่อผู้ตายขับรถแหกด่านจนต้องกระโดดหลบ ตรงนี้เรามีข้อมูลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทางญาติผู้เสียชีวิตได้รับทราบแล้วว่าตำรวจได้ดำเนินการอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา เท่าที่ตรวจสอบทางญาติก็มีความพึงพอใจพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.อ.ประวุฒิกล่าวว่า ตรงนี้ถือเป็นเรื่องของคดี ในการสอบสวนก็จะต้องไปดูว่าเจตนาหรือไม่อย่างไร หากไม่เจตนาก็ดูว่าประมาทหรือไม่ ขณะเดียวกัน ต้องรอผลการชันสูตรศพประกอบด้วยว่าเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหนักไว้แล้ว ส่วนกรณีที่กลุ่มบิ๊กไบค์นัดรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมและขอวามชัดเจนของคดีนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวได้มีการประสานมายังตน มีการสอบถามว่าเหตุใดจึงไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อตำรวจที่ก่อเหตุ แต่วันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ทางกลุ่มดังกล่าวก็พึงพอใจ
“ยืนยันว่าเราจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ส่วนที่เกรงกันว่าตำรวจจะช่วยเหลือกันตรงนี้อยากให้ดูผลการดำเนินการว่าเป็นอย่างไรแล้วค่อยมาว่ากัน ส่วนเรื่องการชันสูตรศพทางญาติอยากให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นผู้ผ่าพิสูจน์ เราก็ได้ประสานงานให้ โดยจะส่งศพไปผ่าพิสูจน์ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ หลังจากนั้นจะนำผลการผ่าชันสูตรมาประกอบสำนวนการสอบสวน ยืนยันอีกครั้งว่าเราทำทุกอย่างตรงไปตรงมา” โฆษก ตร.กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ถ้าในประเทศไทยอาจจะถือว่าเกินกว่าเหตุ แต่หากเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุ เพราะในประเทศไทยกฎหมายไม่เอื้อให้ตำรวจสามารถทำอย่างนั้นได้ แต่ในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศที่มีความรุนแรงทางอาชญากรรม แค่ให้ยกมือขึ้นแล้วไม่ยก ตำรวจก็สามารถที่จะใช้อาวุธปืนยิงได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าการใช้อาวุธกับเหตุลักษณะนี้ถือว่ารุนแรงเกินไป ตนได้กำชับไปแล้วว่าเมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องก็จะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือใครก็ตามมิเช่นนั้นตำรวจก็ไม่ได้รับความเชื่อถือ เพราะเราต้องดูแลทั้งตำรวจและประชาชน หากตำรวจผิดก็ต้องดำเนินคดี
