“พระมนตรี” เลื่อนให้ปากคำดีเอสไอคดีเช็คสหกรณ์คลองจั่น

พระมนตรีส่งทนายเลื่อนให้ปากคำดีเอสไอคดีเช็คสหกรณ์คลองจั่น และเส้นทางเงินวัดพระธรรมกาย อ้างอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร พร้อมขอนัดวันเข้าให้ปากคำใหม่

วันนี้ (12 มี.ค.) พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.ส่วนตรวจ 2 สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ และศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ ในฐานะหัวหน้าชุดติดตามเส้นทางการเงินวัดพระธรรมกาย เผยถึงกำหนดการเข้าให้ปากคำของพระมนตรี สุตาภาโส ภายหลังมีชื่อรับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า เบื้องต้นได้รับการติดต่อจากทนายว่า พระมนตรีขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำไปเป็นวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งทางทนายความของพระมนตรีอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารหลักฐานชี้แจงสาเหตุการเลื่อนนัดครั้งนี้ โดยคาดว่าช่วงบ่ายวันนี้ทนายความพระมนตรีจะมายื่นเอกสารขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำ และในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) เวลา 10.00 น.

สำหรับกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเกี่ยวข้องเป็นผู้รับเช็คจากนายศุภชัยที่ทางดีเอสไอนัดเข้าให้ปากคำกลุ่มแรกนั้น ได้ให้ทนายความดำเนินการขอเลื่อนเข้าให้ปากคำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมขอนัดวันเข้าให้ปากคำใหม่ ประกอบด้วย พระครูปลัดวิจารย์ เลื่อนให้ปากคำเป็นวันที่ 19 มี.ค. พระธัมมชโย เลื่อนให้ปากคำเป็นวันที่ 26 มี.ค. และ พระมนตรี เลื่อนเป็นวันที่ 20 มี.ค. 58 นอกจากนี้ ทางดีเอสไอยังสอบปากคำกลุ่มนิติบุคคล 38 บริษัท อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 4 บริษัท เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเช็ค

ดีเอสไอนัด “สถาพร” อดีตพระวัดธรรมกาย แจงที่มาหุ้นเอี่ยวโกงเงินสหกรณ์คลองจั่นหรือไม่

ขณะที่วันเดียวกัน นายอเนก สมประเสริฐ ทนายความส่วนตัวของนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย ที่มีชื่อรับเช็คและหุ้นจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กว่า 13,000 ล้านบาท เปิดเผยกำหนดการที่นายสถาพรจะเข้าให้ปากคำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า หลังจากที่ดีเอสไอนัดเข้าให้ปากคำประเด็นเรื่องหุ้นบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ตน และ นายสถาพร ได้มาตามนัด แต่ทางดีเอสไอต้องการให้ชี้แจงเรื่องการซื้อขายอัญมณีเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมเอกสารรายละเอียดต่างๆ มาชี้แจง ทำให้ทางดีเอสไอเลื่อนการสอบปากคำและนัดอีกครั้งในวันที่ 1 เม.ย. เวลา 09.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

สำหรับประเด็นที่ต้องชี้แจงต่อดีเอสไอ ได้แก่ ที่มาของการถือหุ้นในบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และการทำธุรกิจซื้อ - ขาย อัญมณี หรือบริษัททำธุรกิจเหมืองแร่ใน ต.หนองบัว จ.นครสวรรค์

นอกจากนี้ ดีเอสไอต้องการให้ นายสถาพร เตรียมเอกสาร ข้อมูลตั้งแต่มีการจัดตั้งบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม ในการจัดเตรียมข้อมูลค่อนข้างลำบากและทางปปง. ก็ได้ประสานมาด้วยวาจา ว่าขอให้ทางบริษัท เอส.ดับบลิวฯ ยุติการดำเนินทำธุรกิจชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าบริษัทดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบในขณะนี้ จึงขอความร่วมมือจนกว่าจะมีการตรวจสอบเสร็จสิ้น

“ธุรกิจของนายสถาพร มี บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่มีนายศุภชัย เข้ามาเกี่ยวข้อง” ทนายกล่าว

ทั้งนี้ ยืนยันว่า วันที่ 1 เม.ย. นี้ ตนและนายสถาพร จะเดินทางเข้าให้ปากคำตามนัดอย่างแน่นอนและพร้อมให้ความมือ

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) กล่าวว่า ดีเอสไอได้นัดสอบปากคำ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย ในวันที่ 1 เม.ย. นี้ เพื่อให้ชี้แจงที่มาของหุ้นบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ว่า มีการชำระเงินค่าหุ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการโอนหุ้นลมเท่านั้น และสอบปากคำเรื่องการลงทุนทำธุรกิจเหมืองแร่ ที่ จ.นครสวรรค์ โดยนัดสอบปากคำที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ