“ตู่-จตุพร” ประธาน นปช. ยันเสื้อแดงไม่มีเอี่ยวเหตุระเบิดศาลอาญา อ้างมีความพยายามโยนความผิดให้พวกตนและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย คดีหมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่อัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์, นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กับพวกแกนนำและแนวร่วม นปช.รวม 24 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 20 พ.ค. 2553 ร่วมกันชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรียุบสภา
โดยวันนี้จำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาล นายจตุพรให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายโจทก์ได้ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาเบิกความตอบคำซักค้านต่อจากนัดที่แล้ว ส่วนคดีที่คนร้ายขี่จักรยานยนต์มาขว้างระเบิดจีดีอาร์ 5 ใส่ศาลอาญา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น นายจตุพรกล่าวว่า ตนขอประณามผู้ก่อเหตุและผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีขว้างระเบิดศาลอาญาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา และยืนยันว่าแนวร่วม นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาพบว่ามีความพยายามที่จะเชื่อมโยงเหตุระเบิดศาลอาญา และที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กับกลุ่ม นปช. รวมถึงอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลด้วย
ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุม พบว่าอยู่ในรายชื่อที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยเรียกไปพบก่อนหน้านี้ ตัวเองได้เน้นย้ำแกนนำ นปช.ทุกคนให้ระมัดระวังผู้ที่โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือทางด้านการเงิน โดยให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อป้องกันการถูกกล่าวหาจากผู้ไม่หวังดี เพราะที่ผ่านมามีอดีตแนวร่วม นปช. รวมถึงการ์ดที่ประสบความเดือดร้อนเคยโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือด้านการเงินบ่อยครั้ง