“สุทธิชัย หยุ่น” และผู้บริหารเครือเนชั่น เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ รับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) กรณีเสนอข่าวการเข้าซื้อหุ้นเนชั่น พร้อมยืนยันจะสู่ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ สน.ตลาดพลู นายสุทธิชัย หยุ่น ประธาน บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย น.ส.ดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และกรรมการผู้มีอำนาจ ของบริษัท กรุงเทพธุรกิจมีเดีย จำกัด นายจักรกฤษ เพิ่มพูน บรรณาธิการผู้บริหารหนังสือพิมพ์โฆษณา นายสุพจน์ เพียงศิริ กรรมการ บริษัท กรุงเทพธุรกิจมีเดีย น.ส.เบ็ญจรรณ เฝ่าจินดามุข กรรมการ บริษัท กรุงเทพธุรกิจมีเดีย และน.ส.ณัฐวรา แสงวารินทร์ กรรมการ บริษัท กรุงเทพธุรกิจมีเดีย เข้าพบ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ตลาดพลู เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีที่ ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ร่วมกันนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือนิวส์ ที่ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2558
นายสุทธิชัยกล่าวว่า พวกตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สิ่งที่เราพูดมาตลอดที่ได้เราก็คือการปกป้องความเป็นอิสระของสื่อมวลชน สิ่งใดที่ทำให้เราไม่มีอิสระในการนำเสนอข่าว เราจึงได้ตรวจสอบผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้นซึ่งซื้อมากผิดปกติ จึงได้แสดงความคิดเห็น พนักงานของบริษัท ฝ่ายข่าว ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบริหารทุกท่านเป็นห่วง เราจึงได้แสดงออกเพื่อขอคำตอบว่าผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้น มีเจตนาหรือจุดประสงค์ตรงกับทางเนชั่นหรือเปล่า ยืนยันว่าเราจะต่อสู้คดีนี้และก็จะพูดตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎ แน่นอนว่าบริษัทเราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายหุ้นจึงเป็นเรื่องปกติแต่ว่าไม่เคยปรากฏว่ามีการซื้อหุ้นจำนวนมากเหมือนครั้งนี้ซึ่งเป็นที่น่าผิดสังเกต ปกติคนทำข่าวมักยืนยันว่าสื่อที่ดีต้องมีผู้ถือหุ้นที่ดี เรายืนยันว่าจะสู้คดีนี้อย่างถึงที่สุดเพื่อตอบคำถามที่ประชาชนในสังคมไทยตั้งข้อสงสัย ผู้ถือหุ้นก็ต้องเป็นห่วงเหมือนที่ทางเราเป็นห่วงในตอนนี้ จากนี้ตนกับพวกก็เตรียมข้อมูลเพื่อสู้คดีต่อไปในกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด
พ.ต.อ.มานพกล่าวว่า เบื้องต้นทางผู้ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธต่อเจ้าพนักงานสอบสวน หากมีการสอบสวนแล้วเข้าข่ายความผิดก็จะส่งสำนวนฟ้องทันที จากนี้ก็จะทำหนังสือไปยังกระทรวงไอซีทีว่าใครเป็นเจ้าของ และว่าข้อความใครเป็นผู้ลงในเว็บไซต์ ต่อจากนี้จะทำหนังสือไปยังราชบัณฑิตยสถานเพื่อตรวจสอบข้อความที่ลงในเว็บไซต์ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ ส่วนนายนิติราษฎร์ บุญโย ผู้ดูแลเว็บไซต์ ติดภารกิจ เจ้าหน้าที่ต้องให้ทำหนังสือชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุอันใด และจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อไหร่