ตร.คุมตัวผู้ต้องหายกตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทย สาขาธัญบุรี พร้อมเงินสดกว่า 2 ล้านไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้โซ่คล้องตู้เอทีเอ็ม ก่อนใช้รถกระบะกระชากให้ตู้ล้มลง ที่ไม้กระดานรอง แล้วลากขึ้นรถ และใช้ผ้าใบปิดไว้ที่ท้ายกระบะ ก่อนหลบหนี
วันนี้ 17 ก.พ. 58 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภาค 1 (รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี) ,พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.ท.อดิศร ศรีสุจิณต์ รรท.ผกก.ป.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี คุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุยกตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย บริเวณหน้าร้านกรองทอง หมู่ 2 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เงินไปด้วย จำนวน 2,060,300 บาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 คน คือ นายดนัย ปาละกูล อายุ 20 ปี นายวัฒนา สหะรัตน์ หรือ ตี๋ อายุ 22 ปี และ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ รถกระบะ อีซูซุ ดราก้อนอาย สีเทา เลขทะเบียน บล 684 กรุงเทพมหานคร คันก่อเหตุ โดยปลอมทะเบียนรถก่อเหตุแล้วหลบหนี ส่วนเลขทะเบียนจริง คือ 3ข1265 กรุงเทพมหานคร ส่วนรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน ฆธ 5704 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่ก่อเหตุขโมยมา และนำมาเปลี่ยนสีรถ จากเดิมเป็นสีเหลือง หมายเลขทะเบียน กน 5697 นนทบุรี พร้อมด้วยของกลางเป็นโซ่มีตะขอเกี่ยว และอุปกรณ์งัดแงะซึ่งเป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวนมาก
โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยนายดนัยฯ เป็นคนขับรถกะบะ มากับนายเอฯ จากนั้นนำรถกะบะจอดขวางถนน ส่วนนายดนัยฯ ก็นำรถเก๋งมาจอดขวางบังไว้คู่กัน แล้วช่วยกันใช้โซ่คล้องที่ใต้ท้องรถ และไปคล้องกับตู้เอทีเอ็ม จากนั้นขับรถกะบะกระชากให้ตู้เอทีเอ็มล้มลง ที่ไม้กระดานรอง แล้วลากขึ้นรถ และใช้ผ้าใบปิดไว้ที่ท้ายกะบะ จากนั้นหลบหนีออกไปทาง ถนนรังสิต-นครนายก กระทั่งไปเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้นายดนัยฯ ซึ่งขับรถเก๋งไปถูกจับกุมได้ และขยายผลจับกุมได้ทั้งหมด
สอบสวนนายดนัยฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ไม่มีงานประจำทำ โดยไม่คิดว่าจะนำเงินไปทำอะไร ส่วนวิธีการก่อเหตุเป็นผู้วางแผนกันเองทั้งหมด ไม่ได้ลอกเลียนแบบหนังหรือเกม เพราะในหนังกับเกมไม่ได้ทำแบบที่พวกตนทำ ซึ่งรถที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นรถที่ขโมยมาจาก จ.นนทบุรี พร้อมยอมรับอีกว่าเคยก่อเหตุงัดตู้ใส่เงินมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่เคยสำเร็จได้เงินเลยสักครั้ง
พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภาค 1 (รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี) กล่าวว่า สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุทั้งสองคัน กลุ่มผู้ต้องหาขโมยมา ก่อนจะมาพ่นสีใหม่ทับแล้วสวมป้ายทะเบียนปลอมนำไปก่อเหตุ และก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้งอย่างน้อย 3 ครั้ง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยเฉพาะ จ.ปทุมธานี เคยก่อเหตุย่านปากคลองรังสิต และบางกระดี แต่ไม่ได้ตู้เอทีเอ็มไป เพราะมีคนมาเห็นก่อนทั้ง 2 ที่ ก่อนจะมาก่อเหตุอีกในครั้งนี้และถูกจับกุมได้ ซึ่งจะมีการขยายผลต่อ ซึ่งแต่ละครั้งที่ก่อเหตุก็จะขโมยรถชาวบ้านมาแล้วพ่นสีทับ เมื่อจะไปก่อเหตุอีกครั้งก็จะเปลี่ยนสีใหม่ไปเรื่อยโดยการนำสีสเปรย์มาพ่นทับ และจะได้มีการกำหนดมาตรการให้เข้มงวดกับจุดติดตั้งตู้เอทีเอ็มในที่เปลี่ยว ซึ่งจะได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ของธนาคาร เพื่อสำรวจตู้เอทีเอ็ม ที่มีการวางติดตั้งไว้ในที่ล่อแหลม หรือเปลี่ยว ห่างจากชุมชน เพื่อไม่ให้คนร้ายสามารถลงมือก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย เบื้องต้นได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมกับนำตัวส่งศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนคดีขโมยรถยนต์มาก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะได้อายัติตัวเพื่อตั้งข้อหาเพิ่มต่อไป