“ผกก.หนุ่ย” นายตำรวจติดตามคนสนิท “ยิ่งลักษณ์” เบิกความคดีฟ้อง “มัลลิกา” หมิ่น ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ยัน “ยิ่งลักษณ์” แจ้งไปปฏิบัติภารกิจที่โรงแรม ขึ้นประชุมชั้น 7 แต่ไม่ทราบถกประเด็นอะไร ส่วนอดีตนายกฯ ปูระบุไม่ติดใจสืบพยาน
ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (17 ก.พ.) ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีหมิ่นประมาท หมายเลขดำ อ.2493/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้อง นางมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาณผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 19-20 ก.พ. 2555 จำเลยได้แถลงข่าวหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ว่ามีพฤติการณ์และความประพฤติผิดจริยธรรม ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เสื่อมเสียชื่อเสียง โจทก์จึงขอให้ยึดทำลายเอกสารที่มีข้อความดังกล่าว และโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 7 วัน
โดยในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ให้นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ผู้รับมอบอำนาจแทน นำตัว พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร (สบ 4) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ธวัชชัย บุญเฟื่อง อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาเบิกความเป็นพยานโจทก์ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบหมายให้ผู้รับมอบอำนาจยื่นหนังสือแถลงไม่ติดใจที่จะสืบพยานในคดีนี้
พ.ต.อ.วทัญญูเบิกความว่า ได้รับคำสั่งให้มาติดตามดูแลรักษาความปลอดภัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โจทก์ร่วม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2555 ในช่วงเช้าพยานและทีมรักษาความปลอดภัยขับรถไปรับโจทก์ร่วมที่บ้านโดยนั่งรถยนต์คันเดียวกัน โดยมีคนขับอีก 1 คน เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลเสร็จแล้ว หลังจากนั้นช่วงบ่ายโจทก์ร่วมได้แจ้งว่าจะเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะไปทำอะไร ทราบแค่ว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจ ส่วนทีมรักษาความปลอดภัยคนอื่นไม่ทราบจุดหมาย เพราะพยานใช้การสื่อสารทางวิทยุบอกทิศทางระหว่างเดินทางและบอกจุดหมายระหว่างทางที่ใกล้จะถึงโรงแรมแล้ว เมื่อมาถึงโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ขณะที่กำลังจะขึ้นไปบนลิฟต์โจทก์ร่วมได้พบกับ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข (ขณะนั้น) และได้ขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันพร้อมพยานและคนอื่นรวมทั้งหมด 6 คน เพื่อไปยังห้องประชุมชั้น 7 หลังจากขึ้นไปแล้วก็พบกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี บริเวณชั้น 7 และได้เดินเข้าห้องประชุมไปพร้อมกัน ส่วนพยานได้นั่งรออยู่หน้าห้อง จึงไม่ทราบว่ามีการหารือกันในประเด็นใด ขณะที่ทีมรักษาความปลอดภัยอีก 8 คนที่ติดตามมาได้รออยู่บริเวณลานจอดรถด้านล่าง ซึ่งไม่ทราบว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่บริเวณดังกล่าวมีแขกคนอื่นๆ เดินไปมาตลอดเวลา พยานไม่ได้เข้าไปตรวจในห้อง เพราะพยานคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่จะเป็นภัยได้
พ.ต.อ.วทัญญูเบิกความว่า ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จองห้องประชุม และไม่ทราบว่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร คือใคร เพราะไม่เคยพบหน้า รวมถึงไม่ทราบว่าโจทก์ร่วมได้เจอกับนายเอกยุทธที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์หรือไม่ ส่วนประเด็นที่นายเอกยุทธโดนทำร้ายหลังจากโจทก์ร่วมเดินทางออกนอกสถานที่แล้ว พยานทราบเรื่องจากข่าว รวมทั้งไม่เคยรู้จักกับจำเลยมาก่อน
โดยในช่วงบ่าย ทนายความได้เบิกตัว พล.ต.ต.ธวัชชัย บุญเฟื่อง อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาเป็นพยาน ซึ่งศาลนัดสืบพยานโจทก์ อีกครั้งในวันที่ 18 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.