ASTVผู้จัดการ - “ปวีณา” นำมารดาเหยื่อเด็กญิงวัย 5 ขวบ 2 ราย แจ้งจับนายทุนปล่อยเงินกู้ตลาดนัดย่านบางแค หลังลวงบุตรหลานไปกระทำอนาจารภายในห้องพักย่านหนองแขมหลายครั้ง พบประวัติเป็นบุคคลเร่ร่อนและขอทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2544
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ สน.หนองแขม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พานางวิ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 50 ปี อาชีพแม่ค้าขายไก่ทอดตลาดนัดย่านบางแค มารดาและป้าของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ จำนวน 2 คนที่ตกเป็นผู้เสียหายคดีกระทำชำเรา เข้าติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สน.หนองแขม หลังพนักงานสอบสวนรับแจ้งความเอาไว้แล้ว โดยมี พ.ต.อ.สุพีรณัฐ สัตตธนชัยภัทร รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ผกก.สน.หนองแขม และ พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช สว.สส.สน.หนองแขม พร้อมคณะพนักงานสอบสวนให้การต้อนรับและงานรายผลความคืบหน้าการปฏิบัติงานของชุดคลี่คลายคดี
นางวิกล่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าขายไก่ทอดที่ตลาดนัดใกล้เคียงห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางแค มีลูกชื่อ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) และหลานชื่อ ด.ญ.ส้ม (นามสมมุติ) วัย 5 ขวบเท่ากัน และมักนำไปค้าขายที่ตลาดด้วยเป็นประจำ ต่อมาได้รู้จักสนิทสนมกับพ่อค้าขายซีดีหนังโป๊และเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ในตลาดเดียวกัน ชื่อนายไชยยา หรือเล็ก สิทธิสกุลเดช อายุ 50 ปี ก่อนหน้านี้กู้เงินกับนายเล็กมาจำนวน 50,000 บาท ตกลงจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยจำนวน 1,500 บาท เป็นเวลา 38 วัน ซึ่งก็ไม่ได้ผิดนัดชำระหรือมีปัญหาแต่อย่างใด กระทั่งนายเล็กเริ่มเข้ามาตีสนิทกับตนและลูกหลานมากขึ้น ชอบชักชวน ด.ญ.น้ำและ ด.ญ.ส้ม ลูกและหลานสาวตนไปเที่ยวที่ห้องพักซอยเพชรเกษม 77 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.อยู่เป็นประจำ แรกๆ ตนไม่ได้เอะใจอะไรนึกว่านายเล็กเมตตาเอ็นดูเด็ก แต่พอมารู้ความจริงว่าเอาลูกสาวกับหลานตนไปกระทำชำเราจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนเพิ่งทราบความจริงในวันที่เข้าแจ้งความหลังจากนายเล็กนำ ด.ญ.น้ำ และ ด.ญ.ส้มมาส่งว่า ทุกครั้งที่นายเล็กพาไปเที่ยวห้องพักจะปิดประตูห้องมิดชิด หาขนมให้กิน ก่อนเปิดซีดีโป๊ให้ดู และบังคับให้เด็กทั้ง 2 คน ผลัดกันอมนกเขาจนสำเร็จความใคร่ โดยนายเล็กยังบังคับให้กลืนน้ำอสุจิเข้าไปและใช้มือถือถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้อีกด้วย หลังตนทราบเรื่องรู้สึกโกรธแค้นมากจึงพาลูกและหลานเข้าแจ้งความ และพาไปตรวจร่างกาย ก่อนประสานให้มูลนิธิปวีณาหงสกุลเข้าให้การช่วยเหลือ เนื่องจากต้องการดำเนินการต่อนายเล็กให้ถึงที่สุด และไม่ไปก่อเรื่องชั่วๆ แบบนี้กับเด็กที่ไหนได้อีก
นางปวีณากล่าวว่า อยากจะฝากเตือนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแลบุตรหลาน และอย่าไว้ใจบุคคลแปลกหน้า หากท่านใดมีข้อมูลที่จะแจ้งขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือหรือว่าตรวจสอบ สามารถแจ้งเข้ามายังเบอร์สายด่วน 1134 หรือ 0-2577-0496-8
ด้าน พ.ต.อ.สุพีรณัฐกล่าวว่า หลังรับแจ้งความพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กทั้ง 2 รายไปตรวจร่างกายที่นิติเวช รพ.ตำรวจทันที ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ทางฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุแล้วพบว่า ผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับ 4 ข้อหาหนักจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 104/2558 ลงวันที่ 9 ก.พ. 58 ข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ทางตำรวจขอยืนยันว่าจะติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุดเนื่องจากถือเป็นภัยสังคมที่อันตรายมาก และหากมีผู้ปกครองรายใดสงสัยว่าบุตรหลานเคยถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำอนาจารขอให้เดินทางมาแจ้งความอายัดคดีเพิ่มเติมได้ที่ สน.หนองแขม
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติของนายไชยยา ผู้ต้องหารายนี้นั้นไม่พบประวัติเคยก่อเหตุหรือกระทำความผิดข้อหาใดมาก่อน พบเพียงข้อมูลการขอทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2544 ที่สำนักงานเขตบางกอกน้อย และเนื่องจากเป็นบุคคลที่ไม่มีถิ่นอาศัยเป็นหลักแหล่ง จึงขอนำชื่อเข้าทะเบียนบ้านกลางเลขที่ 31/1 ซอนริมคลองบางกอกน้อย แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม.ซึ่งหมายเลขบ้านดังกล่าวเป็นหมายเลขที่ตั้งของสำนักงานเขตบางกอกน้อยนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวน สน.หนองแขม ได้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้นายไชยยาน่าจะหลบหนีไปโดยได้รับความช่วยเหลือจากพรรคพวกกลุ่มเพื่อนที่ชอบเล่นเครื่องร่อนและรถวิทยุบังคับด้วยกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน