“ไพบูลย์” จัดประชุมนานาชาติ สกัดสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด

รมว.ยุติธรรมเป็นประธานประชุมหารือมาตรการควบคุมสารตั้งต้นที่นำมาผลิตเป็นยาเสพติดได้ โดยมีตัวแทนจาก 8 ประเทศเข้าร่วม เผยเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว จนท.พม่าจับแก๊งขนยาเสพติดได้ตามชายแดนไทย-พม่า ยึดยาบ้า 10 ล้านเม็ด และสารตั้งต้นที่นำไปผลิตยาบ้าได้กว่า 200 ล้านเม็ด



วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมเพื่อวางแนวทางการควบคุมสารตั้งต้นไม่ให้ไปสู่แหล่งผลิตยาเสพติดได้ โดยมีตัวแทนจาก 8 ประเทศเข้าร่วมประชุม ได้แก่ กัมพูชา จีน อินเดีย เกาหลี ลาว พม่า เวียดนาม และไทย

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ภายหลังที่ทั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ จีน ไทย ลาว และพม่า ได้ร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย จากนั้นได้ประชุมหารือถึงแนวทางการป้องกันปัญหายาเสพติด โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่านอกจากจัดตั้งศูนย์เพื่อประสานข้อมูลในการปราบปรามยาเสพติดแล้ว ควรจัดหารือเพื่อร่วมมือกันในการดูแล ป้องกัน ควบคุมสารตั้งต้นที่ใช้ผลิตยาเสพติด และเชิญประเทศอินเดีย ประเทศเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้มีการใช้สารตั้งต้นในอุตสาหกรรมการผลิตยารักษาโรคจำนวนมากและถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ที่ประชุมจะหารือถึงสารตั้งต้นบางชนิดที่ผสมอยู่ในตัวยาแต่สามารถนำมาสกัดผลิตเป็นยาเสพติดได้

รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเจ้าหน้าที่ของประเทศพม่าสามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า พร้อมของกลางยาบ้า 10 ล้านเม็ด นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมสารตั้งต้นที่จะนำไปผลิตเป็นยาเสพติดได้อีกโดยปริมาณของสารที่จับได้นั้นสามารถนำไปผลิตเป็นยาเสพติดได้ถึง 100-200 ล้านเม็ด

“หากเจ้าหน้าที่มุ่งจับแต่ยาเสพติดที่ผลิตแล้วคงไม่สามารถลดปัญหายาเสพติดลงได้ ดังนั้นถ้าเราสามารถปิดช่องทางการลักลอบนำสารตั้งต้นเพื่อไปผลิตเป็นตัวยา ก็จะสามารถระงับยับยั้งเครือข่ายยาเสพติดได้” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

สำหรับสารตั้งต้นประเภทซูโดอีนเฟดรีนในประเทศอินเดียนั้น ใน 1 เม็ดสามารถสกัดผลิตเป็นยาบ้าได้ถึง 10 เม็ด