ตำรวจจับยกแก๊งโจ๋ซิ่ง จยย.ก่อเหตุปล้นทรัพย์ ทำร้ายร่างกายนิสิตจุฬาฯ ขณะเดินกลับบ้านหลังซ้อมดนตรีเสร็จ ผู้ต้องหาสารภาพนัดมั่วสุมกันที่ร้านเกมฝั่งธนฯ ก่อนข้ามมาก่อเหตุในหลายท้องที่ แล้วนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่และเล่นเกม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (7 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.สมโภชน์ สุวรรณจรัส ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 แถลงข่าวจับกุมตัว นายเศรษฐกานต์ พิลาภรณ์ หรือแม็ค อายุ 19 ปี ชาว จ.นครราชสีมา, นายอภิบาล มนตรีชัยวิวัฒน์ หรือเตอร์ อายุ 18 ปี, นายธนรักษ์ กรุดทอง หรือแบงค์ อายุ 19 ปี ชาว จ.ยโสธร, นายไพโรจน์ ช่างม่วง หรือต้อย อายุ 18 ปี, นายเมธี ธรรมกูล หรือเม อายุ 19 ปี, นายเอกรินทร์ รัศมี หรือบิว อายุ 19 ปี, นายอาม (นามสมมติ) อายุ 17 ปีเศษ และนายบีม (นามสมมติ) อายุ 17 ปีเศษ พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว สีขาว-แดง ทะเบียน มตท 491 กรุงเทพมหานคร, จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กด 856 กรุงเทพมหานคร, จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน ลคธ 761 กรุงเทพมหานคร, หมวกนิรภัยที่ใช้สวมใส่ในการก่อเหตุ 3 ใบ, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 4 สีดำ 1 เครื่อง และแว่นสายตาสีดำ 1 อัน
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม และฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ได้ลงพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุคนร้ายกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 6 ก.พ.ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีคนร้ายจำนวน 6 คนใช้จักรยานยนต์ 3 คันเป็นยานพาหนะก่อเหตุร่วมกันใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายปล้นเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายที่บริเวณทางเดินเท้าหน้าห้างแว่นท็อปเจริญ ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. และหลบหนีมาตามถนนพระราม 1 มุ่งหน้าแยกเจริญผล ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าสกัดจับตามเส้นทาง พบกลุ่มคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์มาตามถนนด้วยความเร็วสูง จนสามารถจับกุมตัวนายเศรษฐกานต์ และนายอภิบาลได้พร้อมจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และยึดทรัพย์ของกลางที่ได้จากการปล้นที่บริเวณหน้าห้างโลตัสพระราม 1 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. ส่วนคนร้ายที่เหลือได้หลบหนีไปจากบริเวณดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่เหลือได้หลบหนีไปอยู่ที่ร้านเกม CZ INTERNET ย่านบางขุนนนท์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบจนทำการขยายผลสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน หลังจากนั้นได้ทำการขยายผลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง จนสามารถจับกุมตัวนายเมธี และนายเอกรินทร์ไว้ได้ในเวลาต่อมา
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีอาชีพ มักจะรวมกลุ่มเล่นเกมที่ร้านดังกล่าวก่อนพากันออกตระเวนปล้นทรัพย์เหยื่อที่เดินตามท้องถนนในยามค่ำคืน โดยนายธนรักษ์ นายไพโรจน์ นายอาม และนายบีมให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายเศรษฐกานต์ และนายอภิบาล ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย นอกจากนี้ จากการสืบสวนสอบสวนยังพบอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 1 ก.พ. นายเศรษฐกานต์ นายไพโรจน์ นายอาม และนายบีม ได้ร่วมกันกับนายเมธี และนายเอกรินทร์ ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหายที่บริเวณป้ายจอดรถประจำทางหน้าสนามม้านางเลิ้ง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 3,000 บาท และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จำนวน 1 เครื่อง อีกทั้งยังยอมรับอีกด้วยว่าได้ร่วมกันก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายย่านปิ่นเกล้า จากนั้นนำเงินที่ได้มาแบ่งกันและนำไปใช้เที่ยวเตร่ เล่นเกม อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การของผู้ต้องหา จะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อทำการขยายผล นอกจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายธนรักษ์ และนายไพโรจน์ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.85/2558 และ จ.86/2558 ลงวันที่ 6 ก.พ. 2558
ขณะที่นายวรวิทย์ เสวีวัลลภ อายุ 21 ปี นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปซ้อมดนตรีกับกลุ่มเพื่อนที่ย่านปทุมวัน หลังจากนั้นเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 6 ก.พ.ได้เดินทางกลับบ้านโดยเดินอยู่บริเวณริมถนนหน้าห้างแว่นท็อปเจริญ ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. พบคนร้ายจำนวน 6 คนใช้จักรยานยนต์ 3 คันเป็นยานพาหนะ โดย 3 ใน 6 คนกำลังยืนปัสสาวะอยู่ตนจึงเดินผ่านมาโดยไม่สนใจ จู่ๆ กลุ่มคนร้ายปรี่เข้ามาใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายปล้นเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ก่อนมาแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน ทั้งนี้ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากที่ได้ทรัพย์สินคืนทั้งหมด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป