ศาลฎีกาออกหมายจับ “กำนันเซี้ย” เบี๊ยวฟังคำพิพากษาคดี เป็นอั้งยี่-ฮั้วประมูลใน จ.กาญจนบุรี พร้อมเลื่อนไปอ่านคำพิพากษาอีกครั้ง 11 มี.ค.นี้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีฮั้วประมูล หมายเลขดำ 4077/2546 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ย ผู้กว้างขวางใน จ.กาญจนบุรี และอดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์, นางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา, น.ส.วรรณา ล้อไพบูลย์ บุคคลใกล้ชิดของนางเขมพร และนายถวิล หรือน้อยหนวด สวัสดี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มนายสมชาย จิตตหฤษฎ์ หรือเลขาฯ จุก เลขานุการส่วนของกำนันเซียะ เป็นจำเลย ที่ 1-4 ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฮั้วประมูล) ตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่าง พ.ศ. 2542 - 17 พ.ค. 2544 จำเลยร่วมกันฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆ ใน จ.กาญจนบุรี หลายโครงการ โดยเดือน พ.ค. 2544 จำเลยร่วมประชุมนัดแนะกำหนดแผนการ จัดสรรแบ่งงานผลประโยชน์แก่สมาชิกในการเข้าร่วมโครงการประมูลงานก่อสร้างหลายโครงการใน จ.กาญจนบุรี และ จ.เพชรบุรี ต่อมา วันที่ 17 พ.ค. 2544 จำเลยที่ 4 นายสมศักดิ์ ศรีสุข และนายสมชาย จิตตหฤษฎ์ กับพวกอีกหลายคนที่ศาลอาญาพิพากษาลงโทษไปแล้วเมื่อปี 2546 ได้ร่วมกันกระทำความผิดข้อหาอั้งยี่ เข้าขัดขวางไม่ให้บริษัท วัสดุเซ็นเตอร์ จำกัด เข้าเสนอราคา โดยได้กักตัวนายเดชา มาศวรรณา ตัวแทนบริษัทไว้พร้อมเสนอให้รับเงิน 1 หมื่นบาท เพื่อไม่ให้เข้าร่วมการเสนอราคา แต่เมื่อนายเดชาไม่ยินยอม นายสมศักดิ์กับพวกได้ใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดที่ ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา และ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ต่อมาจำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนพร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกกำนันเซี้ยจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี ฐานเป็นหัวหน้า หรือผู้มีตำแหน่งในอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 วรรค 2 ส่วนจำเลยที่ 2-4 จำคุกคนละ 4 ปี ฐานเป็นอั้งยี่ ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย
เมื่อถึงเวลานัดปรากฎว่า ฝ่ายจำเลยมีนางเขมพร เดินทางมายังศาล ขณะที่น.ส.วรรณา จำเลยที่ 3 ได้มอบหมายให้ผู้แทนมาศาล ส่วนนายประชา หรือกำนันเซี้ย จำเลยที่ 1 ส่งทนายความมายื่นคำร้องขอศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา โดยแจ้งเหตุผลว่ายังไม่ได้รับหมายนัด เนื่องจากย้ายที่อยู่ใหม่
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า หลังจากฟ้องนายประชา จำเลยที่ 1 ได้ย้ายที่อยู่ใหม่เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2554 แต่ไม่แจ้งให้ศาลทราบตลอดระยะการพิจารณา 4 ปี และนัดครั้งก่อนเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2557 จำเลยที่ 1 มีผู้รับมอบอำนาจมาศาล แต่ก็ไม่แจ้งศาลถึงการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ใหม่ ดังนั้น จะมาอ้างเหตุเพื่อเลื่อนฟังคำพิพากษานั้น เห็นว่าจำเลยที่ 1 มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงไม่มาศาลฟังคำพิพากษา ส่วนน.ส.วรรณา จำเลยที่ 3 ศาลได้ให้โอกาสเลื่อนฟังคำพิพากษาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ในวันนี้จำเลยที่ 3 ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุ จึงมีคำสั่งออกหมายจับจำเลยที่ 1 และ 3 ให้มาฟังคำพิพากษา โดยให้จำเลยทั้งหมดมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 11 มี.ค. 2558 เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ นายถวิล สวัสดี จำเลยที่ 4 เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย ศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบแล้ว