ปส.ทลายเครือข่ายค้ายาไอซ์-ยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด เผยเป็นแก๊งใหญ่ ตำรวจจับตามานาน ระบุหัวโจกเคยถูกจับกุมแล้วหนีประกัน ทำให้ผู้พิพากษาศาลมีนบุรี โดนออกจากราชการ 4 ท่าน ด้าน ผบ.ตร.รุดตรวจสอบ พร้อมกำชับให้กวดขันจับกุมยาเสพติดที่เป็นบ่อนทำลายชาติ
วานนี้ (23 ม.ค.) พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร ผบช.ปส.นำกำลังจู่โจมเข้าจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ 2 ราย โดยแบ่งเป็น 2 ชุดจับกุมจู่โจมพร้อมกัน พ.ต.อ.อดิศเจริญสวัสดิ์ ผกก.บก.ปส. 3 จับกุม นายอนุวัตร สาวิสิทธิ์ อายุ 29 ปี ส.ต.ราชันย์ ลีตา อายุ 27 ปี อดีตทหารปลดประจำการ พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 1 แสนเม็ด ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 197 /156 ซ.สุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
ต่อมา พ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง รอง ผบก.ปส.3 นำกำลังเข้าจับกุม นายอาทิตย์ รติอนันต์ อายุ 35 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1 ล้าน 6 แสนเม็ด ยาไอซ์ 36 กิโลกรัม ปอร์เช่ บล็อกสเตอร์ สีขาว ทะเบียน ร 2589 กรุงเทพ ป้ายแดง ลัมโบกินี ทะเบียน กฆ 1913 กรุงเทพมหานคร ฮอนด้าซีอาร์วี สีขาว เลขทะเบียน 1กง5076 กรุงเทพ และรถเบนซ์ 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ภายในบ้านเลขที่ 44/42 หมู่บ้านคลองจั่นวิลล่า 2 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
พล.ต.ต.เรวัช กล่าวว่า นายอาทิตย์ เป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่ตำรวจ ปส.มีหมายจับ และเฝ้าดูพฤติกรรมมานานแล้ว เคยถูกสืบสวนจับกุม สภ.นนทบุรี 3,600 เม็ด ไอซ์ 111 กรัม 26 มิ.ย.ปี 2555 ที่ตลาดออเงิน เขตสายไหม ซึ่งได้ประกันตัวแล้วภายหลังก็ได้หลบหนีระหว่างได้รับการประกันตัวชั่วคราว จนทำให้ผู้พิพากษาของศาลจังหวัดมีนบุรี ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีมติไล่ออกและให้ออกจากราชการ จำนวน 4 ท่าน
จากนั้นมาร่วมค้ายากับแก๊งปอร์เช่ และถูกจับกุมขณะซุกซ่อนยาไว้ในรถ 4 แสนเม็ด แต่นายอาทิตย์ หลบหนีไปอยู่ประเทศจีน ก่อนจะมากบดานที่หมู่บ้านคลองจั่น 2 โดยจะนำยาบ้าลำเลียงมาพักไว้ในพื้นที่เช่าทาวน์เฮาส์ 2 ปี เป็นโกดังพักยาเป็นท้องที่โคกคราม ซึ่งนายอาทิตย์ พกบัตรตำรวจของ ร.ต.ท.อานนท์ รติอนันต์ พี่ชายที่เป็นรอง สวป.สน.โคกคราม
พล.ต.ต.เรวัช กล่าวต่อว่า จากนั้นได้เฝ้าติดตามการระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ย่านชานเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุม และวิสามัญเครือข่ายไปแล้วหลายราย ยังพบว่า มีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาพักไว้ที่จุดนี้จึงนำกำลังชุดจู่โจมจับกุมพร้อมกันทั้ง 2 จุด พร้อมยึดยาเสพติดจำนวนมาก และได้รายงานให้ ผบ.ตร.ทราบเรื่องแล้ว และจะเดินทางมายังที่เกิดเหตุด้วยตัวเองเพื่อสอบสวนขยายผล
จากนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่งพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมียังที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบของกลางทั้งหมด
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่ในเขตพื้นที่ กทม.ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ต้องหาคดีที่ขอประกันตัวก็มักจะหลบหนีในชั้นศาล หลังจากนั้น ก็มักจะกลับไปค้ายาเสพติดเหมือนเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีข้อมูลประวัติของผู้ต้องหาไว้หมดทุกคน ซึ่งก็ต้องของชมเชยทาง บช.ปส.ที่สามารถกวดขันจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้ได้ และก็ขอให้กวดขันจับกุมยาเสพติดซึ่งเป็นบ่อนทำลายชาติต่อไป