ปอท. จับ จนท. ฝ่ายปกครอง จ.สระแก้ว โพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นเบื้องสูง ผิดมาตรา 112 ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเห็นข้อความ - คลิปเสียง - รูปภาพผ่านการปลุกระดมทางเฟซบุ๊ก จนคล้อยตาม และลงมือกระทำผิดต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปี
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริพงศ์ ติมุลา ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายชโย อัญชลีวัชระ อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมือง จ.สระแก้ว หลังจากพบว่า นายชโย ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “UnchaUnyo” เผยแพร่รูปภาพ และข้อความที่มีลักษณะหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเป็นการกระทำผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเผยแพร่หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า การจับกุม นายชโย เป็นการขยายผลจากกรณีมีการจับกุม นายพงษ์ศักดิ์ ศรีบุญเพ็ง ชาว จ.จันทบุรี เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ “Samparr” ผู้ต้องหาตามหมายจับของ คสช. ตามมาตรา 112 หลังถูกตำรวจ บก.ปอท. จับกุม เนื่องจากผู้ต้องหาใช้สื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่รูปภาพและข้อความที่มีลักษณะหมิ่นเบื้องสูง เพื่อยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย และมีความเกลียดชังขึ้นในสังคม ซึ่งจากการสืบสวนขยายผล มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าวมีการทำเป็นขบวนการ ทั้งในส่วนของผู้สนับสนุนข้อมูล, กลุ่มผู้ให้ที่พักพิง, กลุ่มผู้สนับสนุนทางการเงินและกลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือในการหลบหนีไปต่างประเทศจนได้มีการจับกุม นายภาสอินทร์ ประพงษ์ หรือ ทนายหมู นางชลธิชา ช่วยนุกิจ ภรรยานายภาส และ นางรัตนา ริทซิงเอ้อร์ ในข้อหาให้ที่พักพิงกับ นายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งขณะนี้ได้สรุปสำนวนพร้อมส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาแล้ว สำหรับ นายชโย เป็นผู้รวบรวมข้อมูล แสดงความคิดเห็นส่งต่อให้ นายพงษ์ศักดิ์ ดัดแปลงแก้ไข เพิ่มเติม เพื่อเผยแพร่ทางสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ จากข้อมูลด้านการข่าวพบว่า ขบวนการนี้ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีหมายจับ คดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงหลายราย ให้หลบหนีไปอยู่ประเทศลาวด้วย
จากการสอบสวน นายชโย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ตนเองได้เห็นภาพ ข้อความคลิปเสียง ที่มีการปลุกระดมในเฟซบุ๊ก จนเกิดความคล้อยตาม จึงได้ลงมือกระทำการดังกล่าวต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปี ขอฝากเตือนประชาชนทั่วไปว่า การกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมาย ข้อความทุกอย่างไม่เป็นความจริงมีเจตนาให้เกิดความแตกแยกในสังคม