xs
xsm
sm
md
lg

สนง.ศาลเตรียมสอบผู้พิพากษาโผล่คลิปฟิตเนสฉาวจริงหรือไม่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม
โฆษกศาลยุติธรรมแจงกระแสข่าวมีผู้พิพากษาปรากฏตัวในคลิปฟิตเนสฉาว อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน หากเป็นจริงจะเสนอ ก.ต.ต่อไป ส่วนกรณีตำรวจจอดเก๋งประท้วงหน้าสภา อ้างมีผู้พิพากษาเรียกสินบน ตรวจสอบไม่พบพฤติกรรมไม่เหมาะสม

วันที่ 14 (ม.ค.) นายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยกรณีกระแสข่าวว่ามีผู้พิพากษาอยู่ในคลิปวิดีโอหญิงสาวเปลือยกายในร้านเอบิซาวน่า แอนด์ ฟิตเนส นวดแผนไทย ย่านวังทองหลาง ว่ากรณีที่มีการกล่าวอ้างใดๆ ถึงความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของผู้พิพากษา ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะตรวจสอบตามขั้นตอนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเบื้องต้นทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะทำการตรวจสอบคลิปดังกล่าวว่ามีผู้พิพากษาอยู่ในคลิปและเหตุการณ์นี้ด้วยจริงหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าผู้พิพากษาคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็จะเสนอคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ต่อไป

นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ภทร อัตถากร นำรถยนต์เก๋งไปจอดไว้หน้ารัฐสภา โดยติดข้อความข้างตัวรถในทำนองประท้วงศาล มีชื่อผู้พิพากษา 2 ท่าน และข้อความว่า “ที่ดิน 100 ล้าน ท่านได้แต่ใดมา ทำชอบสิ่งใดวานบอก ร้องทุกข์ประธานศาลฎีกา คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ร้องมา 9 ปี ไม่มีผล ผู้พิพากษากินสินบาทคาดสินบน... ” ว่า ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เมื่อปี 2552 พ.ต.ท.ภทร อัตถากร เคยมีหนังสือร้องเรียนกล่าวหาผู้พิพากษาศาลจังหวัดพังงาว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการวางตนและประพฤติมิชอบ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วไม่ปรากฏว่าผู้พิพากษาดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ให้ความสนิทคุ้นเคยกับคู่ความ หรือดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมามีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนกล่าวหาว่าผู้พิพากษาสมคบกับคู่ความในคดี โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับที่ดินเพื่อหวังผลประโยชน์หรือส่วนแบ่งจากที่ดิน โดยผู้พิพากษาจะถือครองที่ดินร่วมกับกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล การกระทำดังกล่าวทำให้การพิจารณาคดีของผู้พิพากษาไม่เป็นธรรม สำนักงานศาลยุติธรรมได้สดับตรับรับฟังข้อเท็จจริงแล้วไม่ปรากฏว่ามีผู้พิพากษาในศาลจังหวัดพังงาและจังหวัดใกล้เคียง ถือครองที่ดินร่วมกับกลุ่มนายทุนตามที่กล่าวอ้างในหนังสือสนเท่ห์

“ขอยืนยันว่าการประพฤติปฏิบัติตนของผู้พิพากษาต้องเป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ในประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการและกฎหมาย และขอให้มั่นใจว่าสำนักงานศาลยุติธรรมมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ชัดเจนและดำเนินการอย่างจริงจัง” นายบวรศักดิ์กล่าว

ประเด็นสุดท้าย สำนักงานศาลยุติธรรมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่า ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพแอบอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม หรือเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดกรุงเทพมหานครบ้าง เจ้าหน้าที่ศาลอาญาบ้าง หรือเจ้าหน้าที่จากศาลอื่นๆ ทั้งในรูปแบบระบบเสียงอัตโนมัติและบุคคลเป็นผู้โทรศัพท์ กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มักอ้างว่าเหยื่อได้รับหมายศาล แต่ไม่สามารถส่งหมายได้ ทำให้เหยื่อที่ได้รับการติดต่อส่วนใหญ่ต่างตกใจ และกดหมายเลขติดต่อกับมิจฉาชีพดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะเสนอตัวเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยการขอข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลทางการเงิน โดยหลอกลวงว่าจะตรวจสอบข้อมูลให้ บางรายหากหลงเชื่อก็อาจถูกหลอกให้ทำธุรกรรมผ่านเครื่องกดเงินสดอัตโนมัติ หรือเอทีเอ็ม โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี จึงขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ เพราะทางศาลยุติธรรมไม่มีนโยบายในการขอข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน การกระทำดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง

ดังนั้น หากมีโทรศัพท์หรือบุคคลแอบอ้างในลักษณะนี้ ขอให้ติดต่อสอบถามไปยังศาลที่บุคคลนั้นแอบอ้างโดยตรงจากหมายเลขโทรศัพท์ของศาลยุติธรรมทั่วประเทศ หมายเลข 1133 หรือเว็บไซต์ www.coj.go.th


กำลังโหลดความคิดเห็น