เพลิงไหม้ตำหนักทรงย่านราษฎร์บูรณะ หนุ่มสามล้อสำลักควันดับ

เพลิงไหม้ตำหนักทรงเทพเจ้า ภายในบ้านเช่าย่านราษฎร์บูรณะ หนุ่มสามล้อหนีไม่ทันสำลักควันดับ ตำรวจเผยก่อนเกิดเหตุเจ้าของบ้านได้จุดธูปเทียนไหว้เทพเจ้าจนเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (9 ม.ค.) ร.ต.ท.นราศักดิ์ วงค์โปทา พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีประชาชนติดอยู่ในบ้านเลขที่ 19/17 ซอยตลาดบางปะกอก ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาประสานรถดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตราษฎร์บูรณะ เข้าให้การช่วยเหลือก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม ผกก.สน.ราษฎร์บูระ พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสูง 4 ชั้น พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งจากบริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งเปิดเป็นตำหนักทรงเทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี๊ย เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงจึงเร่งนำหัวฉีดเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ใช้เวลานาน 30 นาที เพลิงจึงสงบ

จากการตรวจสอบบนชั้นที่ 4 ของตัวบ้านซึ่งแบ่งเป็นห้องเช่าเล็กๆ ไม่มีเลขที่ จำนวน 2 ฝั่ง ประมาณ 8 ห้อง พบศพนายอาณัฐพล บุ้งหวาย อายุ 29 ปี อาชีพขับรถสามล้อ ผู้เช่าห้องพักห้องที่ 2 นับจากตรงทางขึ้นบันได สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายสกอต เสียชีวิตอยู่กลางห้องมีคราบเขม่าควันไปทั่วบริเวณ เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเกิดจากการสำลักควันเพราะหนีลงไปด้านล่างไม่ทัน จึงนำศพส่งให้สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ชันสูตรสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนนางจันที บุตรหนองหว้า อายุ 60 ปี กล่าวว่า บ้านดังกล่าวเป็นของตนโดยเปิดเป็นตำหนักเทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี๊ย และแบ่งห้องเอาไว้ให้เช่าด้านบนด้วย ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ตนจัดงานทำบุญตำหนักเพื่อความเป็นมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการจุดธูปเทียนไหว้เทพเจ้าบริเวณชั้นที่ 2 และกำลังจะลงไปจัดเลี้ยงพระเพลที่ลานด้านหน้าบ้าน แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาทำให้ นายอาณัฐพล ผู้เช่าบ้านสำลักควันเสียชีวิตเนื่องจากวันนี้เจ้าตัวป่วยเป็นไข้กินยานอนพักอยู่บนห้องทำให้ไม่ได้ออกไปขับรถสามล้อจนเสียชีวิตดังกล่าว

พ.ต.อ.เจษฎากล่าวว่า จากการสอบสวนเจ้าของบ้านเบื้องต้นทราบว่ามีการจุดธูปเทียนไหว้เจ้าตามความเชื่อบนชั้นที่ 2 จริงแต่ระหว่างที่ลงมาทำพิธีเลี้ยงพระเพลด้านล่าง อ้างว่าทำการดับหมดแล้ว หลังจากนี้จะประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดว่าต้นเพลิงเกิดจากสิ่งใด หากเป็นความประมาทของเจ้าของบ้านก็จะต้องแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตทันที