จับตาศาลอ่านคำพิพากษา “ไอ้บอล” คดีอุ้มฆ่า “เอกยุทธ” พรุ่งนี้

ASTVผู้จัดการ - ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีอุ้มฆ่า อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ เอกยุทธ อัญชันบุตร พรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 907

กรณี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 59 ปี นักธุรกิจชื่อดังที่ประกาศเป็นปรปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 โดยตำรวจแกะรอยตู้โฟล์ก สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กทม. ของ นายเอกยุทธ พบเบาะแสขับลงเส้นทางภาคใต้ไปสิ้นสุดที่ จ.พัทลุง จากนั้นจึงตามควบคุมตัว นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล คนขับรถได้ที่ จ.สมุทรสงคราม รับสารภาพว่าก่อเหตุลักพาตัวและฆ่านายเอกยุทธ แล้วนำศพไปฝังไว้ จ.พัทลุง เพื่ออำพราง พร้อมกับซัดทอดเพื่อนอีก 2 คนร่วมก่อเหตุ และฝังเพื่อหวังทรัพย์สินเงินสด 5 ล้านบาท และเครื่องประดับราคาแพงของผู้ตาย นอกเหนือจากสะสมความโกรธแค้นที่ผู้ตายดุด่านายบอล พาเจ้าหน้าที่ไปขุดศพในป่าภูเขาจิงโจ้ จ.พัทลุง พบศพสภาพเปลือยกาย ส่งพิสูจน์ดีเอ็นเอยืนยันเป็นศพนายเอกยุทธ ตำรวจตามดำเนินคดีบิดามารดานายบอลฐานร่วมปิดบังอำพรางหลักฐาน

ทั้งนี้ ศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.3307/56 กรณีอุ้มฆ่า อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ เอกยุทธ อัญชันบุตร พรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 907

ก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 บรรยายคำฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 6 - 9 มิ.ย. 56 จำเลยที่ 1 - 4 มีปืนออโตเมติก .38 ยี่ห้อวอลเตอร์ สมิธ แอนด์ เวสสัน และมีด ไปบริเวณซอยทาวน์อินทาวน์ 21 ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.　ร่วมกันปล้นทรัพย์นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 59 ปี ผู้ตาย ลักเอาทรัพย์สิน 9 รายการ เช่น เงินสด นาฬิกา สร้อยทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง แหวน โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ รวมมูลค่า 6.6 ล้านบาท อีกทั้งร่วมกันใช้อาวุธจี้บังคับข่มขู่ผู้ตายพาขึ้นรถตู้ ทะเบียน ฮพ 9340 กรุงเทพมหานคร ไปที่บ้านพักย่านลาดกระบัง บังคับผู้ตายออกเช็คเบิกเงินสด 5 ล้านบาท ไปโดยทุจริต จากนั้นใช้กำลังกอดรัดผู้ตาย ด้วยการใช้ท่อนแขน บีบกดบริเวณลำคออย่างรุนแรง และอุดปากและจมูก ก่อนใช้เชือกรองเท้ารัดคอผู้ตายจนขาดอากาศหายใจการกระทำของจำเลยที่ 1 - 4 มีเจตนาเพื่อฆ่าผู้ตาย โดยวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน และให้เพื่อสะดวกแก่การปล้นทรัพย์ หลังก่อเหตุพวกจำเลยได้ร่วมกันนำศพผู้ตายไปฝังที่คันดิน ไร่นาสวนผสมทิ้งร้างย่าน ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง เพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ส่วนจำเลยที่ 5 - 6 ซึ่งเป็นบิดา มารดา ร่วมกันรับของโจร เป็นเงินสด 4,242,000 บาท ของผู้ตายที่ถูกปล้นไป กระทั่งวันที่ 12 มิ.ย. 56 เจ้าพนักงานได้จับกุมจำเลยที่ 1, 3 และ 4 ได้ ส่วนจำเลยที่ 5 - 6 เข้าพบพนักงานสอบสวน ได้ทรัพย์สินของผู้ตายคืนมา 4,658,030 บาท ก่อนจับกุมจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 56 ชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 - 2 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนจำเลยที่ 3 สารภาพเฉพาะข้อหาเคลื่อนย้ายศพ และร่วมกันมีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยที่ 4 สารภาพเฉพาะข้อหาเคลื่อนย้ายศพ จำเลยที่ 5, 6 ให้การปฏิเสธ ข้อหารับของโจร

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ อดีตทนายความของนายเอกยุทธ เปิดเผยว่า ทีมทนายความมีโอกาสพูดคุยกับ นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล ผู้ต้องหาในคดีฆ่านายเอกยุทธในห้องขังอีกครั้ง โดยการเข้าพบครั้งนายสันติภาพ ยังยืนกรานว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือสังหารนายเอกยุทธตามที่เคยให้การไว้ แต่มีทีมสังหาร ซึ่งเป็น กลุ่มคนมีสีจำนวน 4 คน เป็นผู้ลงมือฆ่า ส่วนนายสันติภาพทำหน้าที่เพียงผู้ชี้เป้า

นายสุวัฒน์ ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้นายสันติภาพออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ เป็นเพราะทีมอุ้มฆ่าไม่จ่ายเงินค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ จากเดิมสัญญาจะมอบให้ 3 ล้านบาท แต่กลับเบี้ยวจ่ายเพียงแค่ 8 แสนบาท โดยทีมอุ้มฆ่าที่เป็นคนมีสีมีด้วยกัน 4 คน ซึ่งทีมสังหารได้ลงมือฆ่านายเอกยุทธตั้งแต่อยู่ภายในบ้านพักย่านทาวน์อินทาวน์ หลังจากอุ้มนายเอกยุทธมาจากร้านอาหาร โดยชนวนการอุ้มมาจากเรื่องกลุ่มสังหารต้องการบังคับเอา “ฮาร์ดดิสก์” ซึ่งเป็นความลับที่สำคัญที่นายเอกยุทธมีอยู่ โดยทีมสังหารไม่ได้ตั้งใจจะฆ่านายเอกยุทธที่บ้าน แค่ต้องการสั่งสอน แต่ลงมือแรงไป ทำให้แผนที่จะอุ้มไปฆ่าที่อื่นต้องล้มเหลว จึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่โดยเอาศพไปทิ้งที่พัทลุง

สำหรับคดีนี้เป็นปริศนา และถือเป็นคดีอื้อฉาวมาอย่างยาวนานกว่าปีครึ่ง โดยในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) คำตัดสินในกระบวนการยุติธรรมจะบ่งชี้ทิศทางของความยุติธรรมที่นายเอกยุทธควรจะได้รับและสังคมต้องการเห็นในระดับหนึ่ง