ดาบ ตร.แค้นฝ่ายหญิงปันใจ ตามมาจ่อยิงที่สถาบันพลังจิตตานุภาพ ก่อนอุ้มศพหลบหนี

ดาบตำรวจ สน.ลาดกระบังก่อเหตุระทึกจ่อยิงขมับอดีตแฟนสาวภายในสถาบันพลังจิตตานุภาพ ที่อบรมธรรมะย่านพระโขนง ก่อนนำร่างที่ไร้วิญญาณขึ้นรถหลบหนีไป ด้านแม่แฟนผู้ตายยันดาบตำรวจเคยชอบคอกัน แต่ฝ่ายหญิงตีจากเพราะถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง และมาพอชอบกับบุตรชายตนก่อนก่อเหตุสลดขึ้น ตร.คาดปมชู้สาว และเหยื่อสาวคงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

วันนี้ (18 ธ.ค.) ร.ต.ท.สมภพ เขมะกนก พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บภายในวัดธรรมมงคล ซอยปุณณวิถี 20 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง พ.ต.ท.ณัฏฐ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ สว.สส. พ.ต.ท.ฑีฆายุ เรณางกูล สวป. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณด้านหน้าอาคารสถาบันพลังจิตตานุภาพ สถานที่อบรมธรรมะ เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือดขนาดใหญ่ที่เก้าอี้นั่งรอด้านหน้าสถาบันดังกล่าว ใกล้กันพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวไปจนถึงลานจอดที่อยู่ใกล้เคียงกันประมาณ 20 เมตร ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ ด.ต.บุญญฤทธิ์ เรือนเย็น อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผบ.หมู่งานฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง ซึ่งภายหลังเกิดเหตุนั้นได้ลักพาตัว น.ส.รุ่งนภา ต้ะมูล หรือหมวย อายุ 21 ปี ชาว จ.น่าน ผู้ได้รับบาดเจ็บ หลบหนีขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 1921 จังหวัดนครสวรรค์ ออกจากสถาบันดังกล่าวไป

จากการสอบสวนนางเมธณี สมเชื้อ อายุ 52 ปี แม่ของแฟนผู้บาดเจ็บให้การว่า วันนี้ก่อนเกิดเหตุตนได้พา น.ส.รุ่งนภามาที่สถาบันดังกล่าวเพื่อรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติเป็นครั้งที่ 3 หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง จับกุมตัวในข้อหาธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี และถูกควบคุมตัวมาประมาณ 1 ปีเศษที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำคลองเปรม ต่อมาทาง ด.ต.บุญญฤทธิ์ทราบข่าวว่า น.ส.รุ่งนภาถูกจับกุมตัว ด้วยความที่เคยชอบพอกันจึงอาสานำเงินสดจำนวน 2 แสนบาทยื่นประกันตัว หลังจากนั้นได้ขาดการติดต่อกับทางแฟนหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายของนางเมธณี ต่อมาทราบว่า ด.ต.บุญญฤทธิ์ได้ประกันตัว น.ส.รุ่งนภา ก่อนลักพาตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ที่บ้านพักมาประมาณ 1 ปี โดยฝ่ายหญิงได้ร้องขอทาง ด.ต.บุญญฤทธิ์ออกมาเรียนการศึกษานอกเวลา ก่อนที่ฝ่ายผู้หญิงจะฉวยโอกาสหลบหนีออกมาอยู่กับลูกชายตนได้ประมาณ 5 เดือน และขณะนี้ตั้งท้องอ่อนได้ 3 เดือนแล้ว

โดยขณะเกิดเหตุตนและน.ส.รุ่งนภากำลังนั่งรอเพื่อติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติอยู่นั้น ด.ต.บุญญฤทธิ์ได้ขับรถยนต์มาจอดดักรออยู่ที่ลานจอดรถของสถาบันดังกล่าว เมื่อพบ น.ส.รุ่งนภานั่งรออยู่ จึงเดินตรงเข้ามาก่อนจะเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกันรุนแรง หลังจากนั้นได้เดินกลับไปที่รถยนต์ที่ขับมาเพื่อหยิบอาวุธปืนก่อนที่จะกระโจนเข้าล็อกคอ น.ส.รุ่งนภา และชักอาวุธปืนลูกโม่สีดำจ่อยิงที่ขมับขวา จำนวน 1 นัด จนฟุบลงไปกองกับพื้น ก่อนจะพยุงและลากร่างอันไร้วิญญาณของ น.ส.รุ่งนภาขึ้นรถหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.ฤทธิกรกล่าวว่า ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว และเชื่อว่าผู้ที่ถูกยิงได้เสียชีวิตตั้งแต่จุดเกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องทำการสอบปากคำญาติผู้ตายอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นได้ประสานงานไปยัง สน.บางนา และพื้นที่ใกล้เคียงติดตามและตั้งจุดสะกัดจับพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและหลบหนี อีกทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบในส่วนของโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ หลังจากนี้จะมีการประสานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดผู้ที่ก่อเหตุ เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป