หนุ่มแสบเข้ามอบตัวกองปราบฯ อ้างสนิทกับลูกสาว “ประยุทธ์” หลอกลวงผู้เสียหาย 40 รายเพื่อเข้ารับราชการตำรวจ โดยเรียกค่าดำเนินการหัวละ 2 แสน 5 หมื่นมูลค่าความเสียหาย 4 ล้าน เจอข้อหาฉ้อโกงประชาชน
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม นายสหชาติ คงทน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/4 หมู่ที่ 4 ต.ลำพระยา อ.เมือง จ.ยะลา เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6 บก.ป.ตามหมายเรียกข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ แสงทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ที่ 1 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมพวกรวม 40 ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.ว่าเมื่อช่วงเดือน ก.ค.-พ.ย. 2557 ได้ถูกนายสหชาติซึ่งเป็นครูอัตราจ้างแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา และนายวรวิทย์ ขำจิต อ้างว่าเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.สังกัด บช.ปส.โดยหลอกลวงว่ารู้จักสนิทสนมกับลูกสาวฝาแฝดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบสงบแห่งชาติ สามารถฝากเข้ารับราชตำรวจชั้นประทวนได้โดยไม่ต้องสอบเข้าแต่อย่างใด แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ 250,000 บาท ค่าเครื่องแบบ 8,500 บาท หากไม่จบ ม.6 จะต้องซื้อวุฒิบัตรอีก 20,000 บาท
ต่อมามีผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ยะลากว่า 40 รายหลงเชื่อ มอบเงินสดให้ผู้ต้องหารายละ 50,000-150,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท แต่เมื่อผ่านมาหลายเดือนไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เหยื่อจึงสอบถามแต่ผู้ต้องหากลับบ่ายเบี่ยงและติดต่อไม่ได้จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเพื่อรวมรวบหลักฐานก่อนออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองมาสอบปากคำ กระทั่งนายสหชาติเข้ามอบตัวดังกล่าว
สอบสวนนายสหชาติให้การว่า ตนรู้จักกับนายวรวิทย์ตั้งแต่สมัยเรียนโดยเช่าหออยู่ด้วยกัน จากนั้นทราบมาว่าเขารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวนอยู่สังกัด ตชด.แล้วลาออกมา ต่อมานายวรวิทย์กับแฟนมาถามตนว่าสนใจจะเป็นตำรวจไหมจะฝากให้เพราะแฟนสนิทกับลูกสาวฝาแฝด พล.อ.ประยุทธ์ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ 2 แสนกว่าบาท และหากตนรู้จักใครที่สนใจก็แนะนำมาได้ ตนก็ไปบอกคนที่รู้จักหลายราย โดยผู้เสียหายหลงเชื่อเพราะตนเป็นครูในพื้นที่ เขาจึงมอบเงินให้ตนนำไปให้นายวรวิทย์ โดยที่ไม่ได้รับเงินค่านายหน้าแม้แต่บาทเดียว อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้เรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะถูกนายวรวิทย์หลอกมาอีกที จึงเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป.ได้รายงานคดีให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว
