xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สรุปสำนวนคดีก๊วน “พงศ์พัฒน์” หมิ่นเบื้องสูง ให้ สตช.ส่งอัยการแล้ว - ยันไม่จับเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีแก๊งอุ้มลดหนี้ก๊วน “พงศ์พัฒน์” ส่ง สตช. เพื่อลงความเห็นสั่งฟ้องส่งอัยการแล้ว เนื่องจากเป็นคดีที่มีความผิดตาม ม.112 ยันไม่มีออกหมายจับเพิ่ม ขณะที่ 3 ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับยังไม่ติดต่อขอมอบตัว

วันนี้ (9 ธ.ค.) พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีที่ สน.วัดพระยาไกร และ สน.พระโขนง ให้กับทางคณะพนักงานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พิจารณาแล้วอยู่ในระหว่างการพิจารณาลงความเห็นสั่งคดี ให้กับอัยการซึ่งสำนวนคดีนั้น ไม่ได้นำสำนวนคดีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขู่ นายไตรสรณ์ ธีระตระกูล อดีตเจ้าของสัมปทานโรงน้ำแข็งในตลาดไท จ.ปทุมธานี ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มารวม และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เหลือผู้ต้องหาอีก 3 คนที่ยังจับกุมไม่ได้ในคดีข่มขู่ทวงหนี้ 37 ล้านบาท ท้องที่ สน.พระโขนง มี 2 คน คือ นายปรีชา ดาราไตร อายุ 44 ปี ผู้จ้างวาน และ นายไพเชษฐ์ เมธีสริยพงศ์ อายุ 45 ปี ผู้ติดต่อ และเจ้าของบ้านพาเหยื่อไปกักขัง ส่วนท้องที่ สน.วัดพระยาไกร มี 1 คน คือ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปี จ้างให้ลดค่าเสียหายทั้งหมดอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีและยังไม่มีใครติดต่อเข้ามอบตัว

ด้าน พ.ต.ท.ชูศักดิ์ คำทราย พงส.ผนพ.สน.วัดพระยาไกร เผยว่า ขณะนี้ได้ทำการสรุปสำนวนส่งให้ทางผู้บังคับบัญชาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของการสอบปากคำ น.ท.ปริญญา นั้น ไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปจากที่ให้การที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างได้เสร็จสิ้นลงเหลือแต่ในส่วนของการติดตามตัวนายนพพร มาดำเนินคดี โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี กล่าวถึงการทำสำนวนคดี นายไตรสรณ์ ธีระตระกูล อดีตเจ้าของสัมปทานโรงน้ำแข็งในตลาดไท จ.ปทุมธานี ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังผู้เสียหายถูก นายชากานต์ ภาคภูมิ และพวกอ้างเบื้องสูง ข่มขู่คุกคามจนต้องเลิกกิจการโรงน้ำแข็ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 56 ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดทำคดีนั้น เร่งทำสำนวนเพื่อส่งให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาต่อไป

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า สำหรับขั้นตอนกระบวนการนั้น หลังจากคณะสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานรออกหมายจับผู้กระทำความผิดจนจับกุมผู้ที่กระทำความผิดได้แล้วก็จะสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา ก่อนที่จะลงความเห็นในสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสั่งฟ้องต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความผิดตาม ม.112 อำนาจการสั่งคดีทั้งหมดจึงอยู่ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น