Astv ผู้จัดการออนไลน์ - พบกลุ่มคนต่างชาติชาย 3 หญิง 1 ท่าทีมีพิรุธ จับเด็กสาววัยรุ่นไม่ได้สติกระทำรุนแรงต่อหน้าคนในสวนสันติฯ เจอถามรีบเผ่นหนีขึ้นแท็กซี่
เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น.ที่ผ่านมาของวันนี้ (9 ธ.ค) บริเวณสวนสาธารณะสันติไชยปราการ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร ผู้สื่อข่าวของ ASTV ผู้จัดการได้ประสบเหตุ กลุ่มคนต่างชาติประกอบไปด้วยผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 1 คน อายุราว 30-50 ปี ท่าทีมีพิรุธ โดยผู้หญิงจะคอยประคองเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ในลักษณะเหมือนไม่มีสติ สะลึมสะลือ ขณะที่ฝ่ายผู้ชาย 3 คนจะเดินวนเวียนอยู่รอบๆ ใกล้กับผู้หญิงและเด็กสาวคนนี้คล้ายคอยสังเกตการณ์และระมัดระวังเหตุ
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า ตลอดเวลาผู้หญิงได้พูดจาด้วยภาษาต่างด้าวกับเด็กผู้หญิงที่ไม่ได้สติ แล้วพามานั่งบริเวณบันไดทางเดินในสวน จากนั้นไม่มีใครคาดคิด ผู้หญิงต่างชาติวัยกลางคนดังกล่าวได้หยิบวัตถุมีคมไม่แน่ชัดว่าเป็นมีดหรือกรรไกรขึ้นมาพยายามข่มขู่ พร้อมกับกระชากผมของเด็กสาวไม่สนใจต่อสายตาผู้คนที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาพักผ่อนในสวนเฝ้ามองเหตุการณ์
เมื่อผู้สื่อข่าวเห็นท่าทางกระทำการรุนแรงดังกล่าวแล้วจึงเดินเข้าไปสอบถามผู้หญิงคนนั้นว่าทำไมทำรุนแรงกับเด็ก ผู้หญิงวัยกลางคนได้ตอบผู้สื่อข่าวด้วยภาษาไทยในสำเนียงต่างด้าวที่ฟังแล้วเข้าใจว่าเด็กเป็นลม เวียนหัว พูดซ้ำๆ โดยไม่พูดอะไรมากกว่านี้ก็รีบพยุงเด็กสาวลุกขึ้น และเรียกชายที่เดินอยู่บริเวณนั้นมานำเด็กสาวออกจากสวนเพื่อเรียกรถแท็กซี่ทันที แต่คันแรกปฏิเสธไม่ไป จึงเรียกคันที่ 2 เป็นแท็กซี่สี เขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ-6357 กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปแยกบางลำพู
เมื่อทั้งหมดขึ้นรถจากไป ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์แจ้งไปที่ 191 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องได้ประสานกับตำรวจท้องที่ สน.ชนะสงคราม และโพสต์ภาพที่ถ่ายไว้ไปที่เพจของศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร-บก.02 ทางเพจก็ได้ตอบกลับว่าจะประสานกับ สน.ชนะสงครามเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเฟซบุ๊กของสถานีจราจรเพื่อสังคม สายด่วน 1255 ได้ลงข้อความว่าได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ สน.ชนะสงครามแล้ว และอ้างว่าเป็นเหตุการเข้าใจผิดของผู้พบเห็น เป็นเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในกลุ่ม ไม่ใช่เหตุลักพาตัวแต่อย่างใด และได้โดยสารรถแท็กซี่คันดังกล่าวออกมาเพื่อตามหากันและได้มีปากเสียงเกิดขึ้นก่อนที่จะออกจากพื้นที่ดังกล่าวไป
สถานีจราจรเพื่อสังคมได้คุยกับโชเฟอร์แท็กซี่คันที่อ้างว่าพาเด็กและกลุ่มคนดังกล่าวขึ้นแท็กซี่ไป โดยบอกว่าหลังจากที่ได้เข้าพูดคุยกับตำรวจและระบุว่าเป็นเหตุเด็กหนีออกจากบ้าน จนผู้ปกครองตามมาพบแล้วพยายามจะพากลับบ้าน แต่เด็กไม่ยอม เลยเกิดการฉุดกระชากกันเกิดขึ้น