อัยการจังหวัดเกาะสมุย ฟ้องสองพม่าฆ่านักท่องเที่ยวฝรั่งบนเกาะเต่า ในข้อหาหนักฐานฆ่าผู้อื่น และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้กำลังประทุษร้าย
วันนี้ (4 ธ.ค.) นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานอัยการสำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ได้ยื่นฟ้อง นายซอลิน หรือ โซเรน ไม่มีนามสกุล อายุ 21 ปีและนายเวพิวหรือวิน ไม่มีนามสกุล อายุ 21 ทั้งสองสัญชาติพม่าเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ในฐานผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ,ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ผู้อื่นไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงและเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมืองและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,276 ,277,288,289 และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 4,5,7,11,12,18,58,62 และ 81 ขณะที่นายเวพิว จำเลยที่สอง อัยการยังได้ยื่นฟ้องเพิ่มอีกหนึ่งข้อหาฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 และ 335 จากกรณีที่นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์อายุ 24 ปี และน.ส.ฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ซึ่งถูกฆาตกรรมเสียชีวิตที่บริเวณหาดทรายรี ม.ที่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา
นายวันชัย กล่าวอีกว่า คำฟ้องของพนักงานอัยการมีความเห็นบางส่วนที่แตกต่างจากความเห็นของพนักงานสอบสวน 2 ประเด็นคือ 1.การเสียชีวิตของน.ส. ฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ไม่ได้เป็นผลมาจากการร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา แต่เป็นการถูกฆาตกรรมเพื่อปกปิดความผิด ดังนั้นในชั้นสั่งคดี อัยการจึงสั่งไม่ฟ้อง นายซอลินและนายเวพิว ในข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ได้สั่งฟ้องทั้งสองคนในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้แทนและประเด็นที่ 2 เนื่องจากตามพยานหลักฐานในคดีปรากฏชัดว่ามีเพียง นายเวพิวที่ได้กระทำการลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ดังนั้นอัยการจึงไม่ได้สั่งฟ้อง นายซอลินในความผิดนี้
