รักษาการ ผบก.ป.มอบนโยบายตำรวจกองปราบฯ มุ่งกวาดล้างมือปืนรับจ้าง ผู้มีอิทธพล และแก๊งเงินกู้นอกระบบ ย้ำอย่าแอบอ้างตำรวจกองปราบเรียกรับผลประโยชน์
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. เรียกประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจกองปราบระดับสารวัตรขึ้นไป โดยกล่าวถึงนโยบายหลักทั้ง 8 ข้อตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำ 3 แนวทางหลัก คือ การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความมั่นใจให้ประชาชนมีความปลอดภัย และความมั่นคงในชีวิต จากนั้นจึงจะมาดูแลงานในกองบังคับการกองปราบปราม
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า ได้เตรียมกำหนดยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่จะมุ่งเน้นการสืบสวนในคดีสำคัญ ส่วนตัวในฐานะที่ทำงานด้านกองปราบมาตลอดอายุราชการมองว่ามีผลงานที่น่าพอใจ หลังจากนี้จะเน้นทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างในจังหวัดต่างๆ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นพื้นที่ใดบ้าง เพราะต้องรอการประชุมอีกครั้งและหวั่นว่ากลุ่มมือปืนจะไหวตัวทัน
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวอีกว่า ในการประชุมวันนี้ ได้พูดถึงการตั้งคณะทำงานลงไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อปราบปรามกลุ่มมือปืนรับจ้างและแก๊งเงินกู้นอกระบบ สถานบริการอย่าให้มียาเสพติดอย่าเปิดเกินเวลา อย่าให้เด็กเข้าไปใช้บริการ และอย่าให้มีคนแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบไปเรียกรับผลประโยชน์ นอกจากนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาดูแลผู้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะสร้างความเป็นมิตรกับประชาชนให้มากขึ้น เพื่อดึงมวลชนมาร่วมมือกับกองปราบปราม
“ผมยืนยันว่ากองปราบปรามมีเจ้าหน้าที่เพียงพอในการทำงาน และพร้อมประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานก้าวหน้า และขอให้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ตำรวจกองปราบปรามเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้แต่ละกองกำกับการทำงานเชิงรุกและให้มีผลงานเป็นรูปธรรมภายในสองสัปดาห์” พ.ต.อ.อัคราเดชกำชับในที่ประชุม
นอกจากนี้ พ.ต.อ.อัครเดชยังกล่าวถึงกรณีการหายตัวไปของเฉิน จี้ อายุ 27 ปี นักธุรกิจสัญชาติจีน-กัมพูชา ว่าทราบเรื่องเมื่อคืนว่าได้รับการปล่อยตัวแล้ว ขณะนี้อยู่ประเทศกัมพูชาและได้ส่งชุดสืบสวนไปทำงานร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่สืบสวนจากสถานีตำรวจนครบาลพญาไท โดยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการลักพาตัวจริงหรือไม่ ต้องรอนักธุรกิจชาวจีนเดินทางถึงประเทศไทย เพื่อทำการสอบปากคำอีกครั้ง