หนุ่มใหญ่เครียดปีนตึกศูนย์การค้าวิกตอรีมอลล์ ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ นั่งร่ำไห้ ตร.ต้องเข้าชาร์จ ก่อนนำตัวลงมาสงบสติอารมณ์ ก่อนระบายความในใจว่าบุตรชายถูกปืนเพื่อนบ้านลั่นใส่บาดเจ็บไม่มีเงินรักษา ไปแจ้งความร้องทุกข์ผ่านมากแล้ว 1 เดือน คดียังไม่คืบ
วันนี้ (13 พ.ย.) ร.ต.อ.นรเสฏฐ์ เดชอุ่ม รองสารวัตรจราจร สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุชายปีนหลังคาศูนย์การค้าวิกตอรีมอลล์ ถนนพญาไท ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอยู่ชั้นที่ 4 ดาดฟ้าของศูนย์การค้าวิกตอรีมอลล์ พบนายสิริเดช เที่ยงตรง อายุ 39 ปี ปีนขึ้นไปนั่งบริเวณดังกล่าวพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งกันบรรดาไทยมุงออกจากจุดเกิดเหตุ พร้อมนำกำลังเข้าเจรจาทันที
นายสิริเดชกล่าวว่า วันนี้มาร้องเรียนหลังจากได้รับความไม่เป็นธรรมเนื่องจากนายสิทธิพร เที่ยงตรง อายุ 15 ปี ลูกชายถูกยิงเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายของตนออกไปหากับกลุ่มเพื่อนแถวบ้าน มีเพื่อนคนหนึ่งได้ขโมยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ของพ่อมาให้เพื่อนๆ ดู จากนั้นขณะที่เด็กๆ ถือปืนเล่นกันปืนเกิดลั่น ถูกบริเวณเอวด้านซ้ายของลูกชายจนต้องนำตัวส่งที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ แพทย์วินิจฉัยพบว่าตับ และไตและกระเพาะได้รับบาดเจ็บจนต้องรับการผ่าตัดจนต้องตัดไตทิ้ง ต้องเสียค่ารักษากว่า 80,000 บาท หลังจากผ่าตัดตนได้นำลูกชายกลับมารักษาที่บ้าน
นายสิริเดชกล่าวว่า จากนั้นได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ภูตาหลวง จ.ชลบุรี และได้ไปร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม จ.ชลบุรี แต่เรื่องก็ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย ทั้งนี้ได้สอบถามไปยังพ่อแม่ของเด็กที่ทำปืนลั่นใส่ลูกตน 4-5 ครั้งแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ และยังบอกอีกว่าอยากร้องเรียนอะไรก็ร้องไป ตนจึงตั้งใจจะเข้ามากรุงเทพมหานครเพื่อหาที่ร้องเรียน แต่ระหว่างนั้นเกิดความเครียดจึงปีนขึ้นไปบนหลังคาศูนย์การค้าดังกล่าวเพื่อหวังให้เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนให้ความสนใจการเรียกร้องในครั้งนี้
ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์การค้าพยายามเข้ามาพูดคุย แต่นายสิริเดชไม่ยอมลงมาเอาแต่ร้องไห้พร้อมกับชูรูปถ่ายของลูกชาย จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่ เข้าชาร์จและนำตัวนายสิริเดชลงมาสงบสติอารมณ์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไทได้ประสานติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูตาหลวงในส่วนของคดี และได้พาตัวไปร้องเรียนต่อศูนย์ร้องทุกข์ของ คสช. ใกล้กับทำเนียบรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาของนายสิริเดชต่อไป