ตร.บางกอกน้อย เจอตัวน้องเวฟ วัย 9 ขวบ ที่หายตัวไปจากการประสานข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา โดยพบตัวที่สถานีรถไฟธนบุรี จากการสอบถามทราบว่าลูกพี่ลูกน้องกับน้องเวฟ อายุ 17 ปี พามาปล่อยทิ้งเนื่องจากไม่พอใจที่แม่น้องเวฟไม่ให้ยืมเงิน แต่ไม่ติดใจเอาความ
วันนี้ (28 ต.ค.) พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย และ ร.ต.อ.นิติศักดิ์ แสงนาค รอง สว.สส.สน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งจาก นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา ว่า พบเด็กหายจากพื้นที่ จ.ชลบุรี ถูกนำไปทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟธนบุรี ถนนสุทธาวาส แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม. จึงนำกำลังฝ่ายสืบสวนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ ด.ช.ศรัณยู ยอดสาลี หรือ “น้องเวฟ” อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนวัดเสม็ด ยืนร้องไห้ตกใจตื่นด้วยความหวาดกลัวโดยมีชาวบ้าน และ รปภ. ของสถานีรถไฟกำลังซักถามและช่วยกันปลอบขวัญ จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล ในกระเป๋ากางเกงมีเงินสด จำนวน 500 บาท และที่มือถือรถวิทยุบังคับไร้สาย จำนวน 1 คัน จึงนำตัวเด็กไปสอบถามข้อเท็จจริงที่ สน.บางกอกน้อย
จากการสอบถาม น้องเวฟ เล่าว่า พักอยู่กับ น.ส.ประภาพร สิงห์โตแก้ว อายุ 30 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ จ.ชลบุรี ส่วนพ่อเลิกราไปนานแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา มี น.ส.ฟิล์ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกพี่สาวแม่นั่งรถแท็กซี่ไปหาตนและแม่ที่ห้องพัก จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็คุยเรื่องอะไรกันบ้างอย่าง กระทั่ง น.ส.ฟิล์ม เดินออกจากห้องมาไหว้วานให้ตนเดินเข้าไปขอยืมเงินแม่ จำนวน 20 บาท พอตนนำเงินออกมาให้ น.ส.ฟิล์ม ก็พาตนนั่งรถแท็กซี่ เข้ามาในกรุงเทพฯ โดยพาไปสถานที่ต่างๆ และซื้อรถของเล่นให้ ก่อนนำมาปล่อยไว้ที่สถานีรถไฟ พร้อมทั้งให้เงินติดตัวไว้จำนวน 500 บาท
ต่อมา พ.ต.ต.เฉลิมชัย ประสิทธิ์กุลไพศาล สว.สส.สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ได้พา น.ส.ประภาพร ผู้เป็นแม่เดินทางมาหาลูกชายที่ สน.บางกอกน้อย ทันทีที่ทั้งคู่เห็นหน้ากันก็ได้โผเข้าสวมกอดและหอมแก้มกันด้วยความดีใจ จากนั้น น.ส.ประภาพร ได้เล่าว่า น.ส.ฟิล์ม เป็นลูกของพี่สาวตนมีความผูกพันเป็นหลานแท้ๆ และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องเวฟ วันเกิดเรื่องช่วงบ่ายวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา น.ส.ฟิล์ม นั่งรถแท็กซี่ไปหาตนที่ห้องพักเพื่อขอยืนเงิน 600 บาท เป็นค่ารถแท็กซี่ที่จ้างเหมามาจาก จ.ฉะเชิงเทรา พอถามก็ไม่บอกว่าจะนำเงินไปทำอะไรประกอบกับไม่ยอมบอกว่าจะเดินทางไปไหนต่อตนจึงไม่ได้ให้เงินไป ต่อมา น.ส.ฟิล์ม ซึ่งเริ่มมีอาการไม่พอใจได้เอ่ยปากขอทะเบียนบ้านอ้างว่าจะนำไปถ่ายเอกสารติดตัวไว้ โดยใช้ให้น้องเวฟ เดินมาขอเงินจากตน 20 บาท เป็นค่าถ่ายเอกสาร ตนเห็นว่าไม่ได้มากมายก็เลยให้ไป จนเวลาผ่านไปนาน 30 นาที พบว่าลูกชายหายไปนานผิดปกติ ออกไปตามหาก็ไม่พบจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี
และส่งข้อมูลมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิกระจกเงา จนมีผู้แจ้งเบาะแสว่าพบน้องเวฟ ไปยืนร้องไห้อยู่ที่สถานีรถไฟธนบุรี จึงรีบประสานให้ตำรวจ สน.บางกอกน้อย รีบไปรับตัวมาให้ สำหรับเรื่องคดีความตนไม่ได้ติดใจอะไร เพราะ น.ส.ฟิล์ม ก็เป็นหลานแท้ๆ เคยอยู่ และเลี้ยงดูน้องเวฟ มาก่อน สิ่งที่ น.ส.ฟิล์ม ทำลงไปคงเป็นเพราะไม่พอใจที่ตนไม่ให้ยืมเงิน
ด้าน พ.ต.ท.เฉลิมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นระหว่างญาติพี่น้องกัน อย่างไรก็ตาม หากแม่เด็กไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับ น.ส.ฟิล์ม ก็สามารถเจรจากันได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณตำรวจ สน.บางกอกน้อย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสารทางสื่อต่างๆ จนมีผู้แจ้งเบาะแสว่า พบตัวน้องเวฟ จนสามารถนำมาคืนสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ได้ในที่สุด