สน.ตลาดพลู รวบโจ๋วัย 15 ปีรักชั่ว ตั้ง “แก๊งคลองสาน” พาพวกเพิ่งรู้จักที่คลองหลอดรุมตีหนุ่มญี่ปุ่นสาหัส ชิงทรัพย์กว่า 3 หมื่นย่านนราธิวาสราชนครินทร์ สารภาพจบแค่ ป.4 เพราะเกเร-ติดยา อยู่ระหว่างประกันตัวคดีปล้นทรัพย์ ท้องที่ สน.บุปผาราม ตร.นำตัวส่ง สน.ทุ่งมหาเมฆ ไล่ล่าเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คน
ช่วงค่ำวานนี้ (27 ต.ค.) ขณะที่ พ.ต.ต.ธวัธชัย อินทะเสย์ สวป.สน.ตลาดพลู ร.ต.ท.มานพ ศิริพิพัทตร รอง สวป.สน.ตลาดพลู และสายตรวจตั้งจุดตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย หน้าปากซอยเทอดไท 23 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. พบผู้ขับขี่จักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงิน ทะเบียน รยข 862 กทม. ท่าทางมีพิรุธจึงขอตรวจค้น ทราบชื่อนายโอ๊ด (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ตรวจค้นในกระเป๋าสะพายพบธนบัตรใบละ 500 ดอลลาร์ฮ่องกง 5 ฉบับ ดอลลาร์สิงคโปร์ฉบับละ 100 อีก 4 ฉบับ ธนบัตรเงินหยวนจีนใบละ 100 หยวน 9 ฉบับ รวมเป็นเงินประมาณ 30,000 บาท บัตรประจำตัวนายโกจิ โอตะ อายุ 38 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 1 ใบ พร้อมบัตรเครดิตวีซ่า 2 ใบ จากการสอบถามที่มาของทรัพย์สินดังกล่าว นายโอ๊ดให้การวกวน จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ตลาดพลู
ต่อมานายวรัญญูรับสารภาพว่าเงินทั้งหมดตนกับเพื่อนอีก 3 คนปล้นมาจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 5 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ช่วงประมาณ 03.00 น.วันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพวกตน 4 คนขับขี่จักรยานยนต์ 2 คันตระเวนหาเหยื่อ กระทั่งพบผู้เสียหายกำลังเดินออกมาจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จึงลงไปคว้าไม้ที่อยู่ข้างทางยาวประมาณ 1 เมตร 2 อัน รุมตีผู้เสียหายจนล้มลงแล้วชิงกระเป๋าสะพายหลบหนีไป
สำหรับเงินทั้งหมดยังไม่ได้ไปแลกเป็นเงินไทย เพราะเกรงว่าจะถูกตำรวจติดตามจับกุม ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยกันเจอกันที่คลองหลอด ขณะนี้แยกย้ายกันหลบหนีไปแล้ว ทั้งนี้ตนเรียนจบแค่ ป.4 ไม่ได้เรียนต่อเพราะเกเร ติดยาบ้า และตั้งแก๊งชื่อแก๊งคลองสาน มีสมาชิกไม่มาก โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 4 เดือนได้ไปก่อเหตุปล้นทรัพย์คนชราที่ยืนรอรถประจำทางอยู่ที่ท้องสนามหลวง ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าเงิน พร้อมเงินอีกประมาณ 500 บาท และบัตรเอทีเอ็มอีก 1 ใบ และยังอยู่ในช่วงประกันตัวคดีปล้นทรัพย์ในท้องที่ สน.บุปผาราม
พ.ต.ต.ธวัธชัยกล่าวว่า สำหรับนายโกจิ โอตะ เพิ่งเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา แล้วพักอยู่ที่โรงแรมในซอยนราธิวาส 7 ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 03.00 น. ผู้เสียหายได้เดินออกมาซื้อของที่ร้านดังกล่าวซึ่งห่างกันไม่มาก จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งขับจักรยานยนต์ออกหาเหยื่อมาพบผู้เสียหายกำลังเดินเพียงลำพังพอดีจึงจอดรถลงไปคว้าไม้ที่อยู่ข้างทางรุมตีจนได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส แต่มีพลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าร้านดังกล่าวสามารถบันทึกภาพขณะที่กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งตัวผู้ต้องหาไปให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทำการสอบสวนขยายผลติดตามเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดีต่อไป
