ปอศ.จับผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและพม่ารวม 13 ราย ฐานตั้งบริษัทร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังแรงงานชาวพม่าเกือบ 1,000 คนแจ้งดำเนินคดีต่อ หจก.ซันเจาปิง (666) ชักชวนร่วมลงทุนรับเงินปันผล มูลค่าความเสียหาย 45 ล้านบาท
วันนี้ (24 ต.ค.) พ.ต.อ.ธงชัย วงศ์ศรีวัฒนกุล รรท.ผบก.ปอศ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. และพ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสภียร ผกก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายปณชัย จันทร์ธนชัย อายุ 21 ปี สัญชาติไทยและสัญชาติพม่า รวมจำนวน 13 ราย พร้อมของกลางสมุดเช็คธนาคารกสิกรไทยจำนวน 1 ลัง เอกสารการสมัครสมาชิกของลูกค้า 1 ลัง เครื่องคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง โปสเตอร์แผนการตลาด คูปองใช้แลกสินค้าอุปโภคบริโภค โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ หจก.ซันเจาปิง (666) เลขที่ 45/2016 ม.7 ซ.พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร แขวงและเขตบางบอน กทม. และเลขที่ 69/185 หมู่บ้านวีเคโฮม แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.
พ.ต.อ.ธงชัยกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาได้มีแรงงานชาวพม่าประมาณ 800 คนจากหลายจังหวัดในประเทศไทยเดินทางมายัง บก.ปอศ.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อ หจก.ซันเจาปิง (666) ที่ได้ชักชวนผู้เสียหายกับพวกให้ร่วมลงทุน โดยจัดทำใบปลิวเป็นภาษาพม่าไปแจกในสถานที่ทำงานต่างๆ ของผู้เสียหาย โดยการลงทุนครั้งแรกรายละ 1 หมื่นบาทต่อหุ้นการลงทุน และจะได้รับเงินปันผล 45,000 บาทต่อหุ้น การลงทุนภายในระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งภายในระยะเวลา 5 เดือนนั้นสมาชิกแต่ละรายจะต้องซื้อสินค้าตามข้อตกลงที่ตั้งไว้ เช่น บัตรชมคอนเสิร์ต บัตรทัวร์ภายในประเทศ และชำระค่าดำเนินการอื่นๆ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อเดือน ต่อมาหลังจากระยะเวลาครบกำหนด 5 เดือนแล้วยังไม่มีสมาชิกรายใดได้รับเงินปันผลตามที่ หจก.กำหนดไว้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบผู้เสียหายกว่า 800 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 45 ล้านบาท
พ.ต.อ.ธงชัยกล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ.ได้ทำการสืบสวนกระทั่งทราบว่า หจก.ซันเจาปิง (666) มีลักษณะเปิดเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น จำนวน 2 คูหา เลขที่ 45/2016 ม.7 ซ.พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร แขวงและเขตบางบอน กทม. และเลขที่ 69/185 หมู่บ้านวีเคโฮม แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. โดยยังคงเปิดดำเนินกิจการอยู่ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 106/2557 และ 107/2557 ลงวันที่ 23 ต.ค. 2557 เข้าตรวจค้น หจก.ซันเจาปิง (666) พบผู้ต้องหาจำนวน 13 รายกำลังให้บริการแก่สมาชิกและลูกค้าใหม่ อีกทั้งยังพบชาวต่างชาติชายและหญิงอีกประมาณ 80 คน จึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 13 รายพร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนนำตัวมาสอบสวนต่อยัง บก.ปอศ.
ด้านนายจอ เลน อู อายุ 43 ปี ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายชาวพม่า กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่หลงเชื่อขบวนการนี้ ได้รับใบปลิวโฆษณาโดยเชื่อว่าถ้าลงทุนกับบริษัทนี้แล้วอีก 5 เดือนข้างหน้าจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ในแต่ละเดือนตนได้ซื้อสินค้าและกิจกรรมต่างๆ เป็นเงินทั้งหมด 80,000 บาท เมื่อครบกำหนดที่จะได้เงินปันผลแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากทางบริษัทแต่อย่างใด จนผ่านไปอีก 2 เดือนได้ติดต่อไปทางบริษัทกลับได้รับคำตอบว่าตรวจสอบเอกสารยังไม่เรียบร้อย ตนจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกแน่จึงได้สอบถามไปยังเพื่อนชาวพม่ารายอื่นที่ลงทุนกับบริษัทแห่งนี้ พบว่าได้รับคำตอบแบบเดียวกับตนเหมือนกัน จึงได้รวมกลุ่มผู้เสียหายซึ่งในขณะนี้มีทั้งหมด 700 คนและยังคงมีมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว จากนั้นในช่วงบ่ายวันนี้จะไปยื่นเอกสารร้องเรียนที่สถานทูตพม่าต่อไป
พ.ต.อ.ภูการวิกกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยืนยันว่า หจก.ดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการในลักษณะระดมทุนให้บุคคลทั่วไป โดยเน้นชาวต่างชาติสัญชาติพม่ามาสมัครเป็นสมาชิกด้วยการสมัครสมาชิกขั้นต้นรายละ 1 หมื่นบาทต่อหนึ่งหุ้นการลงทุน และจะได้รับผลตอบแทนจำนวน 45,000 บาทต่อหนึ่งหุ้นการลงทุน ทาง หจก.ได้ตั้งข้อกำหนดไว้ว่าสมาชิกแต่ละคนจะต้องซื้อสินค้า บัตรคอนเสิร์ต บัตรทัวร์และชำระค่าดำเนินการอื่นๆ เป็นการต่ออายุสมาชิกและสมาชิกนั้นสามารถชักชวนหรือแนะนำหาสมาชิกเพิ่มได้ไม่จำกัดก็จะได้รับเงินจากการสมาชิกใหม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป