xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “วัชระ เพชรทอง” ไม่หมิ่นประมาทแถลง “ตู่” เป็นทาสรับใช้ “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ศาลอุทธรณ์ยืนให้ยกฟ้อง “วัชระ เพชรทอง” แถลง “จตุพร” เป็นทาสรับใช้ “ทักษิณ” ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท ชี้ไม่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง



วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำ อ.3856/2552 ที่นายจตุพร แกนนำ นปช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์, บริษัท สารสู่อนาคต จำกัด เจ้าของ นสพ.ไทยโพสต์ นายทวีสิน สถิตรัตนชีวิน (เสียชีวิต) อดีต บก.ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ไทยโพสต์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีที่เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2552 จำเลย แถลงข่าวที่รัฐสภา กล่าวทำนองว่า นายจตุพร โจทก์เป็นทาสรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี และตระกูลชินวัตรเพียงตระกูลเดียว พร้อมเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรม และคืนเงินเดือนที่ได้มาจากภาษีของประชาชน

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2556 เนื่องจากเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีบทบาทบาทในพรรคเพื่อไทย และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ อีกทั้งตัวโจทก์เองก็เคยเบิกความว่ามีความเคารพรักและมีความก้าวหน้าทางการเมืองเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสื่อมเสียดูหมิ่นเพราะเป็นการปกป้องด้วยความจงรักภักดี จึงเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง ยังไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ต่อมาโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1-3 กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างก็เป็นนักการเมือง สังกัดพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามและมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน การที่จำเลยที่ 1 ใช้คำว่าโจทก์เป็นทาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เนื่องจากโจทก์ได้แถลงว่าคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นองค์กรทาสที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ชอบธรรม ทั้งนี้โจทก์มีความศรัทธาต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้แถลงข่าวดังกล่าว ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้แถลงข่าวว่าโจทก์เป็นทาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าคำว่าทาสหมายถึงผู้รับใช้ มีความหมายทั้งด้านดีและไม่ดี การที่จำเลยที่ 1 กล่าวหาโจทก์ว่าเป็นทาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์มีความเคารพ เชื่อถือ และศรัทธา ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหาย สำหรับประชาชนทั่วไปที่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนดี เมื่อได้ฟังคำพูดของจำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกเกลียดชังโจทก์ แต่กลับนิยมชมชอบเสียด้วยซ้ำ

ส่วนข้อความที่จำเลยที่ 1 กล่าวว่า โจทก์ทำตัวเป็นผู้รับใช้ทรราชและขอให้คืนเงินเดือนซึ่งเป็นภาษีให้กับประชาชนนั้น เห็นว่าเมื่อโจทก์แสดงความเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าถูกกล่าวใส่ร้ายให้เสียหาย แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดในหลายคดี ซึ่งจำเลยที่ 1 ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกับโจทก์ คำกล่าวดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ส่วนข้อความที่จำเลยที่ 1 กล่าวว่าโจทก์ชอบนำนิสัยเดิมสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงมาใช้ เช่น โกหกหลอกลวงประชาชนนั้น เห็นว่าทั้งโจทก์และจำเลยต่างเคยเรียนมาด้วยกัน จึงเป็นการนำลักษณะพฤติกรรมของโจทก์ตามที่ได้รับทราบ มาเปรียบเทียบกับการกระทำปัจจุบัน อันมีลักษณะบ่งบอกพฤติกรรมของโจทก์ ซึ่งยังไม่พอให้รับฟังได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาท อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน









กำลังโหลดความคิดเห็น