ศาลพิพากษาจำคุกแก๊งมาเลเซีย 5 คน คนละ 50 ปี ฐานวางแผนเจาะข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อปลอมแปลงบัตรเครดิตของหลายธนาคาร แล้วนำไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่จังหวัดทางภาคใต้ ได้เงินรวม 5 แสนบาท
ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (25 ก.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีปลอมบัตรเครดิต หมายเลขดำ อ.2282/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายฟรานซิส ซาเวียร์ อรูแลปปาน (Francis Xavier Arulappan) อายุ 35 ปี, นายมาเกสวาราน บาลากริสนาน (Mageswaran Balakrishnan) อายุ 23 ปี, นายวีลานราช วาลานราเซ็น (VelanraJ Vallanrasen) อายุ 22 ปี, นายกูนาลาน คูมารีซาน (Gunalan Kumaresan) อายุ 25 ปี และนายการ์ติก ซินานซามี (Kartik Sinansamy) อายุ 25 ปี ทั้งหมดสัญชาติมาเลเซีย เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมเพื่อประโยชน์ในการใช้เบิกเงินสด
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2557 สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 2-26 เม.ย. 2552 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งหมดกับพวกที่ยังหลบหนี ได้ร่วมกันใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซึ่งติดตั้ง CPU หรือหน่วยประมวลผล และฮาร์ดดิสก์ ปลอมแปลงบัตรเครดิตที่ใช้เบิกถอนเงินสด ชำระค่าสินค้าบริการต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดา เดนมาร์ก รวม 705 ใบ แล้วนำไปกดเงินสดจากธนาคารต่างๆ ที่ภาคใต้ จ.กระบี่ จ.ตรัง จ.สงขลาและจังหวัดอื่นๆ รวม 142 ครั้ง ได้เงินสดเป็นของตนเองโดยทุจริตจำนวน 5 แสนบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่กองปราบปราม กก.6 ป. สามารถติดตามจับกุมจำเลยได้พร้อมของกลางบัตรเครดิตปลอม เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กระทำผิดเป็นของกลางหลายการ ส่งพนักงานสอบสวนกองปราบดำเนินคดี ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งหมดกระทำผิดตามฟ้องจริง ให้ลงโทษฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมซึ่งเป็นบทหนักสุด จำนวน 142 กระทง จำคุกกระทงละ 4 ปี เป็นจำคุก 568 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 284 ปี อย่างไรก็ตาม ความผิดฐานนี้กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกจำเลยสูงสุดไว้คนละ 50 ปี ริบของกลาง และให้ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 5 แสนบาทแก่ธนาคารผู้เสียหายด้วย