xs
xsm
sm
md
lg

เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีนักรบศรีวิชัยบุกรุกสถานีเอ็นบีที

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 การ์ดพันธมิตรฯกลุ่มนักรบศรีวิชัย เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีบุกรุกสถานีเอ็นบีที
ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีนักรบศรีวิชัย 85 รายบุกรุกสถานีวิทยุเอ็นบีที เหตุบางรายไม่มาศาล นัดอีกครั้ง 17 พ.ย.นี้ พร้อมให้ออกหมายจับจำเลย 2 รายเพื่อมาฟังคำพิพากษา หลังเบี้ยวมาศาลโดยไม่แจ้งเหตุผล



ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (18 ก.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธเนศร์ คำชุม กับพวกรวม 85 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไปหรือซ่อนตัวในเคหสถาน หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91,92, 210, 215, 309, 358, 364, 365 และ 371 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2545 และ พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2535

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 22-25 ส.ค. 2551 จำเลยทั้ง 82 คนกับพวกอีก 3 คนซึ่งเป็นเยาวชน ร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานสถานี NBT พร้อมพกอาวุธจำนวนมาก จากนั้นจำเลยได้ร่วมกันทำลายทรัพย์สิน รวมค่าเสียหายทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของทางราชการ โดยจำเลยที่ 1 มีเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่จำเลยที่ 39, 80 มีใบกระท่อม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 รวมจำนวน 18 ใบไว้ในครอบครอง ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในข้อหาพกพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจำเลยที่ 39 ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหามีใบกระท่อมไว้ในครอบครอง แต่ภายหลังกลับให้การปฏิเสธ ส่วนข้อหาอื่นจำเลยที่ 1-85 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2553 ว่าจำเลยที่ 1 บุกรุกเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์ NBT พร้อมกับพกพาอาวุธเข้าไป อันเป็นการกระทำความผิดฐานซ่องโจร แม้ว่าโจทก์จะไม่มีพยานหลักฐานก็ตาม แต่ตามพฤติการณ์บ่งชี้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว และมีความผิดฐานมีวิทยุสื่อสารในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้จำเลยที่ 1 และ 2 ยังกระทำผิดฐานมีอาวุธปืน และพกพาปืนไปในที่สาธารณะด้วย ส่วนจำเลยอื่นนั้นโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยคนใดพกพาปืนชนิดไหน จึงลงโทษจำเลยอื่นไม่ได้

ส่วนความผิดฐานมั่วสุม บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์นั้น เห็นว่าการวินิจฉัยว่าจำเลยใดกระทำความผิดนั้น ต้องพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการที่จำเลยร่วมกันบุกรุก สถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุ NBT เท่านั้น

นอกจากนี้ ในความผิดฐานกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น เห็นว่าจากการนำสืบของพนักงานสอบสวนพยานโจทก์ระบุว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พันธมิตรฯ ประกาศชักชวนอาสาสมัครที่จะไปชุมนุมที่สถานีโทรทัศน์ NBT ให้ไปรวมกลุ่มที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ซึ่งเกิดหลังจากที่กลุ่มจำเลยกระทำการดังกล่าวไปแล้ว จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งหมดจะมีเจตนาร่วมกันกับแกนนำได้ อีกทั้งไม่ปรากฏว่าเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกสถานีโทรทัศน์ NBT ก็ตาม แต่เป็นเพียงความผิดฐานบุกรุกเท่านั้น และจำเลยทั้งหมดยังไม่มีความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดในความผิดฐานดังกล่าว คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 18 เดือน และจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน และสั่งปรับ 500 บาท ส่วนจำเลยอื่นมีโทษจำคุกแตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตาม วันนี้ศาลได้สอบถามแล้วปรากฏว่าจำเลยมาศาลจำนวน 73 ราย ยกเว้นเพียงนายมนตรี แซ่ลิ้ม จำเลยที่ 7, นายมนัส สีสวนหูต จำเลยที่ 10 , นายยุทธนา โอชาพงศ์ จำเลยที่ 11, นายเฉลิม โลกภิบาล จำเลยที่ 20, นายศุภชัย สมทอง จำเลยที่ 28, นายสุรสิทธิ์ แย้มประชาช จำเลยที่ 36, นายภิชัย ทองนวล จำเลยที่ 51, นายอำไพ สิริชยานนท์ จำเลยที่ 73, นายวันชัย รักษายศ จำเลยที่ 78 ต้องขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และจำเลยที่ 83, 84, 85 ขณะกระทำผิดยังเป็นเยาวชนไม่มาศาล เนื่องจากจำเลยส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับหมายให้มาฟังคำพิพากษา แต่ นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา จำเลยที่ 36 และ นายอำไพ สิริชยานนท์ จำเลยที่ 73 ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุผล

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การอ่านคำพิพากษาของศาลจะต้องอ่านต่อหน้าจำเลยทุกคน แต่วันนี้จำเลยบางรายไม่มาศาล จึงเห็นควรให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาอีกครั้ง วันที่ 17 พ.ย. 2557 เวลา 09.30 น. นอกจากนี้ให้ออกหมายจับนายสุรสิทธิ์ แย้มประชา จำเลยที่ 36 และนายอำไพ สิริชยานนท์ จำเลยที่ 73 เพื่อมาฟังคำพิพากษาในนัดหน้าด้วย



























กำลังโหลดความคิดเห็น