จ่อขอหมายจับ คดีวิน จยย.ข่มขืนสาวสมองพิการ

สน.พระโขนง แจงมารดาพาบุตรสาวสมองพิการ ร้องกรมคุ้มครองสิทธิฯ ถูกวิน จยย.อ่อนนุช ข่มขืน ไม่เป็นมวยล้ม อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน คาด 2 วันนี้ ส่งสำนวนให้ ตร.คลองตัน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับได้แน่

จากกรณีที่ น.ส.สุพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พา น.ส.ติ๊ก อายุ 21 ปี บุตรสาว เข้าพบ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม และ นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมการระงับข้อพิพาท กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อร้องเรียนว่าลูกสาวถูกวิน จยย. หน้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาอ่อนนุช ถนนสุขุมวิท 77 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลอกลวงบุตรสาวที่มีอาการพิการทางสมองไปข่มขืน แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.พระโขนง เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่เรื่องไม่คืบหน้าเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อช่วงสายของวันนี้ (10 ก.ย.) ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ สน.พระโขนง พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวนั้นทางญาติของผู้เสียหายได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.พระโขนง เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา จึงสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เร่งรวบรวมสำนวนคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำครบทุกปากแล้ว แต่ยังต้องรอผลการตรวจจากแพทย์ รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่าผู้เสียหายมีอาการทางสมองจริงหรือไม่ เนื่องจากใบรับรองการรักษาตัวโรคไวรัสในสมองที่ รพ.เลิดสิน ตั้งแต่อายุได้เพียง 3 ขวบเท่านั้น พร้อมทั้งหาว่ามีร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนนำมาประกอบสำนวนคดี

พ.ต.อ.ฤทธิกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในส่วนของญาติของผู้เสียหายที่ระบุว่า ทาง นายสัญญา พุ่มเจริญ หรือ ยา อายุ 40 ปี วิน จยย. ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยนั้น มีความรู้จักกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.พระโขนง และเกรงว่าเรื่องคดีความจะไม่คืบหน้านั้น ทางเจ้าหน้านี้ที่ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผู้ต้องสงสัยมีการกระทำความผิดจริงก็ต้องว่าไปตามผิด ไม่มีการลดหย่อนหรือการบิดเบือนคดีแต่อย่างใด จึงขอให้ทางญาติของผู้เสียหายนั้นวางใจได้ว่าจะดำเนินคดีความให้ถึงที่สุด รวมไปถึงทางเจ้าตัวเองปัจจุบันยังติดต่อได้ไม่ได้หลบหนี และพร้อมให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนตลอดเวลาอีกด้วย

พ.ต.อ.ฤทธิกร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้ลงตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณป่ารกใต้สะพานข้ามแยกคลองตัน นั้นเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สน.คลองตัน ซึ่งไม่ตรงต่อคำให้การตั้งแต่ครั้งแรก รวมทั้งเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยหลังจากนี้จะส่งสำนวน รวมทั้งเอกสารรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ให้กับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ไม่เกิน 2 วันนี้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวน จากนั้นจะมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป