ตร. เร่งสอบประวัติ “ไอ้โอม” รปภ. หื่นฆาตกรฆ่าข่มขืน “น้องเนม” หมกท่อระบายน้ำ เตรียมเอาผิดเจ้าของบริษัท หากรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงาน ด้านว่าที่ ผบ.ตร. ถก สพฐ. เตรียมตั้งศูนย์เฉพาะกิจสอบประวัติบุคคลเป็น รปภ.
จากกรณี นายชาตรี ดีสี หรือ โอม อายุ 27 ปี (ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร) ผู้ต้องหาคดีฆ่าน้องเนม (นามสมมติ) วัย 4 ขวบ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่บริเวณปาโซ่ ทาวเวอร์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจร่องรอยตามร่างกาย พบรอยสักที่แขนทั้งสองข้างเป็นภาษาพม่า แปลเป็นภาษาไทยว่า “พ่อแม่ตายแล้ว” และ “พ่อแม่สติไม่ดี” ซึ่ง นายชาตรี ให้การว่า ไต้ก๋งเรือประมงที่เคยทำงานด้วยใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อให้ตนเป็นผู้สักให้ โดยตนเองอาศัยอยู่บนเรือตั้งแต่ยังเด็ก อย่างไรก็ดี จากการลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลจากคำให้การของผู้ต้องหาไม่ตรงกับความจริง และยังไม่พบท่าเรือตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่านายชาตรีเป็นชาวพม่าหรือไม่
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ สน.บุคคโล พ.ต.อ.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผกก.สน.บุคคโล กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่ ในการตรวจพิสูจน์สัญชาตินายชาตรี ว่า เป็นคนสัญชาติพม่า หรือเป็นคนไทย อย่างไรก็ตาม เรื่องบริษัท อินเตอร์คิว เซอร์วิส จำกัด ที่รับนายชาตรีเข้าทำงานนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวน หากพบว่ามีความผิดในการรับสมัครงาน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เนื่องจากมีเหตุการณ์พนักงานรักษาความปลอดภัยก่อเหตุฆ่าข่มขืนเด็กหญิงหลายครั้ง จึงได้หารือกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) เพื่อตั้งชุดทำงานเพื่อหาวิธีการบริการประชาชน โดยเฉพาะบริษัท รปภ. เพื่อตรวจสอบประวัติบุคคลที่จะรับเข้ามาทำงาน เนื่องจากผู้ที่จะมาทำงานเป็น รปภ. และทำงานภายในบ้าน มีความละเอียดอ่อน ต้องทำงานใกล้ชิดคนในบ้าน คนที่ไปดูแล โดยลักษณะจะเปิดเป็นศูนย์เฉพาะกิจพิเศษ และมีเบอร์สายด่วนซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่จะรับเข้าได้ง่ายขึ้น และจะดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งนอกจากทำการตรวจสอบประวัติแล้ว จะต้องทำประวัติบุคคลที่รับมาทำงานเป็น รปภ. ด้วย ต้องมีการถ่ายรูปทำประวัติเพื่อเป็นการป้องปรามอีกทางหนึ่ง
