xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ท่องเที่ยวรวบหนุ่มนักล้วงกระเป๋า คาสนามบินดอนเมือง ขณะลงมือก่อเหตุ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจท่องเที่ยวรวบหนุ่มนักล้วงกระเป๋าคาสนามบินดอนเมือง หลังซุ่มเฝ้าดูมานาน พฤติการณ์หาเหยื่อนอนหลับก่อนทำการลักทรัพย์

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ก.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคร ศรีวัฒนประยูร ผกก.1 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานดอนเมือง ร่วมกับแถลงข่าวจับกุม นายสัญญา คล้ายนิล อายุ 42 ปี ชาว จ.สระบุรี ของกลางเงินสดสกุลไทย 1,300 บาท, สกุลจีน 115 หยวน, สกุลฮ่องกง 100 ดอลลาร์, สกุลอเมริกา 1 ดอลลาร์ ได้ที่บริเวณที่พักชั้น 3 ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.

พล.ต.ต.อภิชัยกล่าวว่า จากการเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาเดินทางมาสนามบินดอนเมืองเป็นประจำ เปลี่ยนที่นั่งไม่ซ้ำกันเพื่อหาโอกาสลักทรัพย์ผู้โดยสารขณะกำลังนอนพักผ่อน โดยจะนั่งปะปนกับผู้โดยสาร เมื่อเห็นผู้โดยสารคนใดนอนหลับ ผู้ต้องหาจะเข้าไปนั่งใกล้ๆ ก่อนทำการล้วงกระเป๋าลักทรัพย์ จากการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ผ่านกล้องวงจรปิดภายในสนามบิน เมื่อพบว่าผู้ต้องหากำลังก่อเหตุลักทรัพย์นายซื่อ โปว อายุ 25 ปี สัญชาติจีนที่กำลังนอนหลับอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พบของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย

โดยนายสัญญาสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสารชาวจีนจริง ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ต่อมาอายุมากขึ้นจึงลาออกมาทำงานขับรถรับจ้างในประเทศไทย และมักจะเดินทางมาพบเพื่อนที่สนามบินดอนเมืองเป็นประจำ แต่ครั้งนี้เพิ่งจะทำเป็นครั้งแรกเท่านั้น

พล.ต.ต.อภิชัยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อการคำให้การ จะสอบสวนขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ เพราะเชื่อว่าน่าจะมีสมาชิกในแก๊งกระจายกันก่อเหตุลักษณะเป็นขบวนการอย่างแน่นอน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองดำเนินคดีต่อไป

ด้านนายซื่อ โปว กล่าวผ่านล่ามว่า ขอบคุณตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่สนามบินดอนเมือง และล่ามของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ได้ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี โดยตนประกอบค้าขายอยู่ที่เมืองจีน มาเที่ยวประเทศไทยหลายครั้งแล้ว มีความประทับใจเป็นอย่างมาก และจะกลับมาเที่ยวอีกอย่างแน่นอน โดยขณะเกิดเหตุตนกำลังหลับสนิทไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ต่อไปจะระมัดระวังทรัพย์สินมากกว่าเดิม




กำลังโหลดความคิดเห็น