อดีตทนายความ “ชิเกตะ” พาแม่อุ้มบุญรายที่ 8 เข้าให้ปากคำตำรวจ เชื่อหนุ่มญี่ปุ่นจะไม่นำลูกตัวไปทำอะไรที่ผิด กม.
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ นายรัฐประธาน ตุลาธร อดีตทนายความของ นายชิเกตะ มิตซูโตกิ พ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่น กล่าวภายหลังพาแม่อุ้มบุญรายที่ 8 เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นอกสถานที่ ที่ สน.ทุ่งมหาเฆม ว่า ตนเชื่อในกระบวนการยุติธรรมของไทย ว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะเด็ก และเชื่อมั่นในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงความบริสุทธิ์ใจของแม่อุ้มบุญด้วย ทั้งนี้ ส่วนตัวขอไม่พาดพึงถึงนายชิเกตะ เนื่องจากเป็นอดีตทนายความ และเชื่อมั่นว่า นายชิเกตะ จะไม่นำเด็กที่เป็นลูกของตัวเองไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายเเน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.เดชา พรมสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวภายหลังการสอบปากคำว่า น.ส.แพน (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเเม่รับจ้างอุ้มบุญ ให้การว่า นายสำราญ ปาสาเนย์ เป็นผู้พา นายชิเกตะ มารู้จักกับตน เพื่อขอให้อุ้มบุญให้ โดยติดต่อมาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 เเละได้ทำการฉีดตัวอ่อนกับ นพ.พิสิฐ ตันติวัฒนกุล เจ้าของสถานพยาบาลออลไอวีเอฟ เวชกรรม เฉพาะทางสูตินรีเวชย่านเพลินจิต กระทั่งไปผ่าคลอดได้ลูกเเฝดชาย-หญิง ที่ รพ.รามคำเเหง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งการดำเนินการหลังจากนี้เจ้าหน้าที่รอเพียงให้ นพ.พิสิฐ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะทำการสรุปสำนวนคดี ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ นายรัฐประธาน ตุลาธร อดีตทนายความของ นายชิเกตะ มิตซูโตกิ พ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่น กล่าวภายหลังพาแม่อุ้มบุญรายที่ 8 เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นอกสถานที่ ที่ สน.ทุ่งมหาเฆม ว่า ตนเชื่อในกระบวนการยุติธรรมของไทย ว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะเด็ก และเชื่อมั่นในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงความบริสุทธิ์ใจของแม่อุ้มบุญด้วย ทั้งนี้ ส่วนตัวขอไม่พาดพึงถึงนายชิเกตะ เนื่องจากเป็นอดีตทนายความ และเชื่อมั่นว่า นายชิเกตะ จะไม่นำเด็กที่เป็นลูกของตัวเองไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายเเน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.เดชา พรมสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวภายหลังการสอบปากคำว่า น.ส.แพน (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเเม่รับจ้างอุ้มบุญ ให้การว่า นายสำราญ ปาสาเนย์ เป็นผู้พา นายชิเกตะ มารู้จักกับตน เพื่อขอให้อุ้มบุญให้ โดยติดต่อมาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 เเละได้ทำการฉีดตัวอ่อนกับ นพ.พิสิฐ ตันติวัฒนกุล เจ้าของสถานพยาบาลออลไอวีเอฟ เวชกรรม เฉพาะทางสูตินรีเวชย่านเพลินจิต กระทั่งไปผ่าคลอดได้ลูกเเฝดชาย-หญิง ที่ รพ.รามคำเเหง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งการดำเนินการหลังจากนี้เจ้าหน้าที่รอเพียงให้ นพ.พิสิฐ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะทำการสรุปสำนวนคดี ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป