ตร.คลองตัน รับแจ้งเหตุศพปริศนาลอยน้ำ ที่เกิดเหตุบริเวณสถานีสูบน้ำคลองเตย สภาพนอนคุดคู้อยู่ในถุงกระสอบข้าว ร่างกายถูกพันธนาการด้วยเชือกไนลอนสีเขียว คาดถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนยัดกระสอบทิ้งน้ำ
วันนี้ (28 ส.ค.) ร.ต.ท.จุฑาพงษ์ ชาญดิลกโชติ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำ บริเวณสถานีสูบน้ำคลองเตย ภายในคลองลำโพง ถนนริมทางรถไฟสายเก่า แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.จิรเดชน์ เหมจินดา ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ ผกก.สส.บช.น. 5 พ.ต.ท.กิตติพัทธ์ เที่ยงน้อย รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ สว.สส. สน.คลองตัน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณตะแกงกั้นขยะของสถานีสูบน้ำคลองเตย เจ้าหน้าที่พบกระสอบขนาดใหญ่ มีกลิ่นเหม็นโชยออกมาอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงได้นำขึ้นมาตรวจสอบพบศพชายอายุประมาณ 20-30 ปี สูงประมาณ 160 ซม. ขึ้นไป รูปร่างเล็ก สวมเสื้อยืดคอวีสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ บอกเซอร์สีน้ำเงินแดง เข็มขัดสีแดง นอนคุดคู้อยู่ในถุงกระสอบข้าว ร่างกายถูกพันธนาการด้วยเชือกไนลอนสีเขียว มัดหัวเข่า เท้าและศีรษะเข้าด้วยกันลักษณะงอตัว จากการตรวจสอบตามร่างกายพบเนื้อส่วนเท้าหายไปเหลือแต่กระดูก บริเวณหน้าอกซ้ายมีรอยสักลายกราฟิกที่เอวจนถึงหัวเขาลักษณะคล้ายนกและมีวงกลมล้อมรอบ พบบาดแผลใต้ราวนมด้านขวามีรอยโหว่เหมือนถูกของมีคมแทง ซี่โครงหัก 3 ท่อน บริเวณใบหน้าที่ตาข้างซ้ายและจมูกมีรอยทุบด้วยของแข็ง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บลายละเอียดที่พบไปตรวจสอบ
พ.ต.ท. กิตติพัทธ์ กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของสำนักระบายน้ำ เขตคลองเตย ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าขณะกำลังเดินตรวจงานอยู่บนเครื่องตักขยะ พบกระสอบดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ คาดว่าศพลอยมาตามน้ำในคลองเตย เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เดินเครื่องจักรเพื่อระบายน้ำเพราะมีฝนตกหนักมีขยะลอยในคลองมากก่อนที่ศพจะติดขึ้นมาด้วย โดยขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคนไทย หรือชาวต่างชาติ เนื่องจากไม่พบเอกสารระบุตัวบุคคล อีกทั้งสภาพศพเน่าเปื่อยมากจนเห็นกระดูก ทำให้จนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาประมาณ 10 วัน หลังจากนี้จะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสแจ้งคนหายในพื้นที่และใกล้เคียง รวมทั้งลงพื้นที่หาข่าวพร้อมทั้งพยานแวดล้อมมาสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมทั้งตรวจสอบว่ารอยสักที่พบตามร่างกายของผู้ตายเป็นลักษณะการสักเฉพาะกลุ่มหรือไม่ เพื่อใช้เป็นเบาะว่าผู้ตายเป็นใคร