รวบสองหนุ่มก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว ใกล้วัดพระแก้ว

ตำรวจจับสองหนุ่มก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวจีน ใกล้วัดพระแก้ว สารภาพไม่มีงานทำ จึงหาเงินทางลัด ด้วยการก่อเหตุล้วงกระเป๋าลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (16 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผบก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคร ศรีวัฒนประยูร ผกก.1บก.ทท. พ.ต.ท.บวรภพ สุนทรเรขา สว.ส.ทท.2กก.1บก.ทท. ร.ต.อ.ทองรชฎ เหรียญสุวงษ์ สว.ส.ทท.5กก.1บก.ทท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1บก.ทท. ร่วมกันแถลงการจับกุมตัว นายวิศรุต จันทร์ศรี อายุ 26 ปี และ นายอนุโชติ รู้แจ้ง อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นแกรนด์ 2 สีขาว 1 เครื่อง เงินสกุลหยวน 700 หยวน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณท่าน้ำท่าช้าง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.อภิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวนหลายรายได้เข้าร้องทุกข์กับทางตำรวจท่องเที่ยว ว่า มีกลุ่มคนร้ายแฝงตัวปะปนกับนักท่องเที่ยว บริเวณพระบรมมหาราชวัง รวมไปถึงท่าน้ำท่าช้าง ท่าน้ำวังหลัง จึงได้จัดกำลังตำรวจท่องเที่ยวนอกเครื่องแบบ เพื่อแฝงตัวตามบริเวณดังกล่าว และสอดส่องกลุ่มคนร้าย กระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งว่าพบชายต้องสงสัย 2 คน ท่าทีมีพิรุธ เดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณท่าน้ำท่าช้างอยู่บ่อยครั้ง ทาง ร.ต.อ.ทองรชฎ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าคนร้ายทั้งสองกำลังเดินประกบนักท่องเที่ยวชาวจีน ก่อนทำการล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สิน แล้วรีบเดินหลบหนีขึ้นรถสามล้อที่จอดอยู่ใกล้กัน ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ทท.

พล.ต.ต.อภิชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนทั้งสองทำงานเป็นคนกรีดยางที่สวนยาง จ.นครศรีธรรมราช ช่วงระยะหลังรายได้ไม่ดี ซึ่งมีครอบครัวและลูกยังเล็ก จึงเข้ามาหางานใน กทม. แต่ระหว่างหางานตนไม่มีเงินติดตัว จึงคิดหาเงินทางลัดด้วยการล้วงกระเป๋า และเลือกทำเลที่มีนักท่องเที่ยวมากๆ จึงคิดได้ว่าบริเวณนี้น่าจะหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ก่อนมาลงมือก่อเหตุในลักษณะนี้ ซึ่งทำมาเพียง 2 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋ากับนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีวัดระฆัง ได้โทรศัพท์มา 1 เครื่อง แต่ยังไม่ทันนำไปขาย ก็ถูกจับได้เสียก่อน ซึ่งจะให้ นายอนุโชติ ค่อยดูต้นทาง จากนั้น นายวิศรุต จะเข้าไปล้วงกระเป๋าทางด้านหลัง ขณะที่เหยื่อไม่รู้ตัว ก่อนส่งต่อให้ นายอนุโชติ เป็นคนเก็บของไว้

พล.ต.ต.อภิชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติคดีของ นายวิศรุต พบว่ามีหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 361/2557 ลงวันที่ 20 พ.ค. 57 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ” ซึ่งจะต้องนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม และ สน.บางกอกน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป