ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 จับกุม 3 หนุ่มเอเยนต์ยาบ้า ยึดของกลางยาบ้า 568 เม็ด ไอซ์ 214.55 กรัม ระหว่างจับกุมได้พยายามใช้เงิน 2.5 แสนติดสินบนตำรวจ จึงถูกซ้อนแผนดำเนินคดีข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงาน
วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ต.สุวนัย พิทักษ์ สว.สส.บก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ร่วมกันจับกุมตัวนายพงศ์พิพัฒน์ ระถะวาหะ หรืออาร์ม อายุ 22 ปี นายจรณินฑ์ ประสานวงศ์ หรือเตอร์ อายุ 18 ปี และนายสายชล หนูช้างเผือก หรือเตอร์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 568 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 214.55 กรัม และเงินสด 250,000 บาท โดยจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ปส.บก.น.4 ได้ขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีเสพยาเสพติดจนสืบทราบว่าได้ซื้อมาจากเครือข่ายย่านรามอินทรา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นหาเงินไปเที่ยวกลางคืนหรือแต่งจักรยานยนต์อวดเพื่อนฝูง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวทั้งการใช้สายลับล่อซื้อ และสืบหาข่าว จนกระทั่งเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตุการณ์ภายในซอยรามอินทรา 65 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว พบนายพงศ์พิพัฒน์เดินออกจากบ้านซึ่งจากข้อมูลการข่าวพบว่าเป็นผู้ค้ารายย่อย จึงแสดงตนขอตรวจค้นร่างกายพบยาบ้า 10 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะสอบสวนขยายผลจนทราบว่ารับยามาจากนายชาย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง หรือชาย กม.7 ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ย่านรามอินทรา เจ้าหน้าที่จึงทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด และยาไอซ์ 5 กรัม
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวต่อว่า ต่อมานายชายได้สั่งให้นายจรณินฑ์นำมาส่งให้ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมแล้วขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 52 ซ.รามอินทรา 65 แยก 2-18-3 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. บ้านของนายจรณินฑ์และเป็นแหล่งพักยาของนายชาย พบของกลางยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง จึงนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติมที่ กก.สส.บก.น.4 แต่ระหว่างที่กำลังสอบสวนอยู่นั้น นายชายได้โทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของนายจรณินฑ์ โดยต่อรองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวนายจรณินฑ์และไม่ติดตามจับกุมตน โดยแลกกับเงินสินบน 500,000 และได้ต่อรองเหลือ 250,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนจับกุม โดยให้นำเงินมาส่งที่ กก.สส.บก.น.4 ต่อมาได้มีนายสายชลนำเงินมาให้เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเอาไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัตินายพิพัฒน์พบว่าเคยเสพยาเสพติดและผันตัวมาเป็นผู้ค้ารายย่อย เคยถูกจับกุมคดีจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 2554 จำคุก 2 ปีที่ สน.โคกคราม เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายชาย เจ้าหน้าที่จะรวบรวมเอกสารเพื่อขออนุมัติออกหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป
