กก.ดส.บุกคลินิกนิวไลฟ์ ไอวีเอฟ ไทยแลนด์ ย่านสาทร สางคดีอุ้มบุญ พบเพิ่งเปิดได้แค่ 2 เดือน คาดอยู่ในระยะฉีดไข่ ไม่เกี่ยวเด็ก 15 คน แต่พบทำเด็กหลอดเเก้ว โดยยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ถือว่ามีความผิด
วันนี้ (15 ส.ค.) พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พร้อมด้วย น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เเละเจ้าหน้าที่ กก.ดส.เข้าตรวจสอบคลินิกชื่อนิวไลฟ์ ไอวีเอฟ ไทยแลนด์ ชั้น 18 ของอาคารบางกอก ซิตี้ ทาวเวอร์ ถนนสาทร กทม. หลังได้รับเบาะแสว่าเปิดให้บริการรับทำเด็กหลอดแก้วผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา พบเวชทะเบียนประวัติคนไข้ซึ่งไม่มีรายชื่อที่ตรงกับกรณีแม่อุ้มบุญให้กับนายมิตสึโตกิ ชิเงตะ พ่อชาวญี่ปุ่นแต่อย่างใด และคลินิกนี้เปิดมาเพียง 1-2 เดือน ดังนั้นกระบวนการในการทำเด็กหลอดแก้วจึงเพิ่งเริ่มต้น โดยอยู่ในระยะเพิ่งฉีดไข่เท่านั้น จึงเชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกรณีอุ้มบุญเด็กทั้ง 15 คน
พ.ต.อ.นภันต์วุฒิกล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีต่อคลินิกนิวไลฟ์ ไอวีเอฟนั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าเเจ้งความต่อ สน.ลุมพินี เช่นเดียวกับคลินิกออล ไอวีเอฟ ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยลักษณะความผิดคล้ายกัน คือ ทำเด็กหลอดเเก้วโดยที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนต่อราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งทางเเพทย์เจ้าของอ้างว่าอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตนั้น แต่ในทางกฎหมายถือว่าผิด
ส่วนความคืบหน้าคดีอุ้มบุญเด็กทั้ง 15 คนนั้น ขณะนี้ทาง ดส.มีเป้าหมายที่จะเข้าตรวจค้น และบุกจับอีกหลายจุด แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ามีกี่จุดและที่ใดบ้าง เนื่องจากเกรงว่าจะไหวตัว
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ของคดีและความเคลื่อนไหวต่างๆ จะได้จากการสอบปากคำแม่อุ้มบุญ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแม่อุ้มบุญเเล้ว 4-5 คน ซึ่งได้ข้อมูลในการขยายผลพอสมควร
วันนี้ (15 ส.ค.) พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พร้อมด้วย น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เเละเจ้าหน้าที่ กก.ดส.เข้าตรวจสอบคลินิกชื่อนิวไลฟ์ ไอวีเอฟ ไทยแลนด์ ชั้น 18 ของอาคารบางกอก ซิตี้ ทาวเวอร์ ถนนสาทร กทม. หลังได้รับเบาะแสว่าเปิดให้บริการรับทำเด็กหลอดแก้วผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา พบเวชทะเบียนประวัติคนไข้ซึ่งไม่มีรายชื่อที่ตรงกับกรณีแม่อุ้มบุญให้กับนายมิตสึโตกิ ชิเงตะ พ่อชาวญี่ปุ่นแต่อย่างใด และคลินิกนี้เปิดมาเพียง 1-2 เดือน ดังนั้นกระบวนการในการทำเด็กหลอดแก้วจึงเพิ่งเริ่มต้น โดยอยู่ในระยะเพิ่งฉีดไข่เท่านั้น จึงเชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกรณีอุ้มบุญเด็กทั้ง 15 คน
พ.ต.อ.นภันต์วุฒิกล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีต่อคลินิกนิวไลฟ์ ไอวีเอฟนั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าเเจ้งความต่อ สน.ลุมพินี เช่นเดียวกับคลินิกออล ไอวีเอฟ ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยลักษณะความผิดคล้ายกัน คือ ทำเด็กหลอดเเก้วโดยที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนต่อราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งทางเเพทย์เจ้าของอ้างว่าอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตนั้น แต่ในทางกฎหมายถือว่าผิด
ส่วนความคืบหน้าคดีอุ้มบุญเด็กทั้ง 15 คนนั้น ขณะนี้ทาง ดส.มีเป้าหมายที่จะเข้าตรวจค้น และบุกจับอีกหลายจุด แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ามีกี่จุดและที่ใดบ้าง เนื่องจากเกรงว่าจะไหวตัว
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ของคดีและความเคลื่อนไหวต่างๆ จะได้จากการสอบปากคำแม่อุ้มบุญ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแม่อุ้มบุญเเล้ว 4-5 คน ซึ่งได้ข้อมูลในการขยายผลพอสมควร