บก.น.5 แถลงจับกุม 2 โชเฟอร์แท็กซี่ ก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์หลานเมีย “อภิสิทธิ์” ผู้โดยสาร ขณะนอนเมาหลับในรถ ก่อนนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าและแยกย้ายกันหลบหนี ล่าตัวอีก 1 ราย
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธ์สุระ ผบก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุวรรณ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ สว.สส. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายภูวดล วาสรัตน์ อายุ 23 ปี และนายพรชัย คันธจันทร์ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางรถแท็กซี่ ทะเบียน ทย 9244 กทม. สีเเดง รถแท็กซี่ ทะเบียน ทล 7929 กทม. เครื่องอุปโภค อาทิ แชมพู โลชั่น ยาสีฟัน สบู่ มูลค่ากว่า 13,481 บาท โดยผู้ต้องหาทั้งสองเป็นโชว์เฟอร์แท็กซี่ซึ่งร่วมก่อเหตุลักทรัพย์ นายธาม ศกุนตาภัย หลานชายนางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภรรยาของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุม นายภูวดล ได้ที่หน้า ร.ร.โสตศึกษา ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 17 เเยก 7 ส่วนนายพรชัยจับได้ที่ย่าน ถ.จันทร์
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลาประมาณ 01.30 น. นายธาม นั่งรถเเท็กซี่ ทะเบียน ทย 9244 กทม. ซึ่งมีนายภูวดลเป็นผู้ขับ และได้ขับรถพานายธามมาส่งบริเวณซอยสวนพลู 8 ก่อนนำเอาทรัพย์สินของนายธามไป ขณะที่ นายธาม หลับ ต่อมาวันที่ 26 ก.ค. นายธาม จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งทราบว่า หลังจากที่ นายภูวดล ลักทรัพย์นายธามแล้ว จึงไปชักชวนนายพรชัย และนายสุฤทธิ์ วิจิตร อายุ 43 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้ซื้อสินค้า ที่ แม็กซ์แวลู (Maxvalu) สาขาสีลม จากนั้นได้นำบัตรไปรูดซื้อน้ำมันเครื่องจำนวน 3 แกลลอน ที่ปั๊มบางจากสาขาพระราม 3 จากนั้นจึงแบ่งของที่ได้จากการรูดบัตรเครดิตกันก่อนเเยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาทราบว่านายภูวดล และนายพรชัยได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปขายที่ร้านน้ำเพชร โมบาย เเยกห้วยขวางในราคา 7,500 บาท โดยนายภูวดลให้ส่วนแบ่งนายพรชัยเป็นเงิน 1,500 บาท
ด้าน นายภูวดล ให้การรับสารภาพว่า ตนขับเเท็กซี่มาเเล้ว 3 ปี โดยปกติจะได้เงินวันละ 1,000 บาท ซึ่งถือว่าพอใช้ แต่ในวันเกิดเหตุ ตนเห็นว่าผู้เสียหายมีอาการมึนเมา ก่อนล้วงกระเป๋า ทำให้โทรศัพท์มือถือเเละกระเป๋าเงินหล่น ก่อนจะหลับไม่ได้สติ ตนเห็นสบโอกาส จึงขโมยเงิน 3,000 บาท พร้อมบัตรเครดิต 3 ใบ และโทรศัพท์ไอโฟน 5 ก่อนที่จะส่งนายธามยังจุดหมาย ต่อมาตนได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ นายสุฤทธิ์ เเละนายพรชัย ฟัง จากนั้นนายสุฤทธิ์จึงชักชวนพวกตนให้นำบัตรเครดิตที่ได้มาไปรูดซื้อของ โดยมีนายพรชัยขับรถแท็กซี่ ทะเบียน ทล 7929 กทม. ไปให้ โดยตนทำครั้งนี้เป็นครั้งเเรก ซึ่งตนเองไม่ได้ตั้งใจ เพราะเงินที่ได้จาการขับแท็กซี่วันละ 1,000 บาท ก็พอใช้เเต่เป็นเพราะความอยากได้ ประกอบกับเคยได้ยินนายสุฤทธิ์บอกว่าถ้าเก็บบัตรเครดิตได้ ให้นำมาให้นายสุฤทธิ์ โดยนายสุฤทธิ์อ้างว่าสามารถนำบัตรไปใช้ซื้อของได้
พ.ต.ท.ศยาม กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายสุฤทธิ์ที่กำลังหลบหนีนั้น ทราบว่ามักจะจอดเเท็กซี่หน้าสถานบันเทิง เเละรับผู้โดยสารที่มีอาการมึนเมา เเละชาวต่างชาติ เพราะเหมาะเเก่การก่อเหตุ จากนั้นเมื่อลักทรัพย์ผู้เสียหายแล้ว มักจะนำบัตรไปรูดซื้อของที่แม็กซ์แวลู สาขาสีลมเป็นประจำ เพราะอยู่ละแวกบ้านของนายสุฤทธิ์ ซึ่งมักจะมากับบุคคลไม่ซ้ำหน้า โดยบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะเป็นของชาวต่างชาติและสินค้าที่ซื้อมักเป็นของใช้ส่วนตัว และบุหรี่ในจำนวนมาก คาดว่าน่าจะนำไปขายต่อ ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายจับนายสุฤทธิ์เเล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน รับของโจร ใช้บัตรอิเล็กทรนิคโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารปลอม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป