ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ จับแก๊งลักรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ขณะลำเลียงรถคันที่โจรกรรมจาก จ.ลพบุรี ผ่านเส้นทางแม่สอด ได้ทันควัน หลังผู้เสียหายได้โพสต์เฟซบุ๊ก เว็บเพจ lostcar ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย
วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) แถลงผลการจับกุม นายอำนาจ พันธเสน อายุ 26 ปี ชาว จ.พิษณุโลก และนายชุมพล เพชรเหล็ก อายุ 20 ปี ชาว จ.ตาก ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถยนต์ พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน บย 3556 เพชรบูรณ์ และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน กน 8025 พิษณุโลก โดยจับกุมได้บนถนนสายตาก-แม่สอด ขาออก บริเวณจุดตรวจห้วยหินฝน อ.แม่สอด จ.ตาก
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 16.39 น. เจ้าหน้าที่สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ที่ปฏิบัติงานอยู่ในเส้นทางสายตาก-แม่สอด บริเวณจุดตรวจห้วยยะอุ อ.แม่สอด จ.ตาก ตรวจพบรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คันวิ่งตามกันมา โดยรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งมีนายอำนาจเป็นคนขับวิ่งนำหน้า และจากการตรวจสอบจากเว็บไซต์ http://polislostcar.police.go.th พบว่า รถกระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน บย 3556 เพชรบูรณ์ ซึ่งมี นายชุมพล เป็นคนขับ และเป็นรถที่ นายบุญทิ้ง สินลา อายุ 40 ปี ชาว จ.ลพบุรี ได้แจ้งความรถหายต่อ ร.ต.ท.กฤษฎิ์ เหล่าโพชัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์ของตนเองที่จอดไว้ที่ลานจอดรถ รพ.เมืองนารายณ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก และทหาร ฉก.ร.9 ประจำจุดตรวจห้วยหินฝน ที่ห่างออกไป 50 กม. สกัดจับไว้ได้ ก่อนที่รถจะถูกส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณแนวชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีนี้เป็นความสำเร็จในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของ ศปจร.ตร.กับกล้องไลเซนส์เพจของ บช.ปส. ถือเป็นการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ โดยทันทีที่รถหาย และเจ้าของรถแจ้งข้อมูลมายังสายด่วน 1192 ของ ศปจร.ตร.และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่จะคีย์ข้อมูลลงในฐานข้อมูลของ ศปจร.ตร.ซึ่งจะส่งข้อมูลไปยังทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศเพื่อให้ช่วยกันสกัดจับ ขณะเดียวกัน อย่างในกรณีนี้ข้อมูลจะถูกเชื่อมโยงกับกล้องไลเซนส์เพจของ บช.ปส.ที่มีกล้องประจำอยู่ตามด่านสกัดกั้นยาเสพติดของ บช.ปส.ทั่วประเทศ
ด้านนายบุญทิ้งกล่าวว่า วันเกิดเหตุได้พาลูกชายซึ่งไม่สบายไป รพ.เมืองนารายณ์ โดยจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล เมื่อกลับออกมาพบว่ารถได้หายไป จึงได้ไปแจ้งความต่อตำรวจ ขณะเดียวกัน ทราบข้อมูลจากเฟซบุ๊ก เว็บเพจ lostcar จึงได้แจ้งข้อมูลไปยังสายด่วนรถหาย 1192 กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าพบรถของตนแล้ว
“ดีใจมาก เพราะเป็นรถคันนี้เป็นรถที่ใช้ในการทำมาหากิน ขณะเดียวกันก็ผ่อนมาร่วม 4 ปีแล้ว ผ่อนใกล้จะหมด พอรู้ว่ารถหายรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะได้คืน ต้องขอบคุณตำรวจมากๆ ที่ติดตามรถมาคืนให้” นายบุญทิ้งกล่าว