รอง ผบ.ตร.ติวเข้ม สตม.มอบนโยบายด้านความมั่นคง กำชับสแกนบุคคลต้องคดีเข้า-ออกประเทศ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและความผิดหมิ่นเบื้องสูง มีผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศและแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก พร้อมมอบหมายจับ 60 คดีให้นำไปจัดการ
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง และพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมมอบนโยบายด้านความมั่นคง โดยมี พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม. และนายตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าร่วมประชุมและรับการมอบนโยบายในครั้งนี้
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า แม้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของตน แต่ที่มามอบนโยบายในวันนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานความมั่นคงโดยเฉพาะ เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองถือเป็นประตูแรกที่จะเปิดรับหรือให้ผู้ต้องหาหรือผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเดินทางเข้าออกประเทศ ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการชุมนุมทางการเมืองจนถึงปัจจุบันเกิดคดีความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคงหลายคดี มีผู้ต้องหาหลบหนีคดีเป็นจำนวนมาก ขณะที่มีบางส่วนหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และบางส่วนหลบหนีไปอยู่ตามแนวเขตชายแดนเพื่อรอการหลบหนีไปยังต่างประเทศ ดังนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจรับผิดชอบในการตรวจสอบบุคคลเข้าออกราชอาณาจักรจึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยคัดกรองหรือตรวจสอบบุคคลที่มีความผิดคดีอาญา หรือมีหมายจับเหล่านี้เพื่อนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
“การกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง หมายถึงการกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ความผิดต่อสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย รวมทั้งความผิดอาญาตามประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เช่น คดีฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว เป็นต้น จึงขอย้ำและกำชับให้การปฏิบัติหน้าที่ของท่านทั้งหลายให้ลงไปชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยว่าขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง รอบคอบ และมีประสิทธิภาพอย่าให้เกิดข้อบกพร่องโดยเด็ดขาด” พล.ต.อ.สมยศกล่าว
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ให้ สตม.เข้มงวดตรวจสอบบุคคล ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งที่หลบหนีและกำลังจะหลบหนี โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับความมั่นคง อย่าให้บกพร่องโดยเด็ดขาด ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่อยู่ในพื้นที่หรือตามเขตชายแดนทำการสืบสวนหาข่าวบุคคลที่กระทำผิดกฎหมาย แล้วไปหลบซ่อนหรือซุกตัวบริเวณชายแดน เพื่อรอหลบหนีไปต่างประเทศ โดยให้เพิ่มความเข้มในการสืบสวนหาข่าวทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงใช้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกับประชาชนตามแนวชายแดน
“กรณีการติดตามตัวผู้ต้องหาที่มีหมายจับหรือบุคคลต้องห้ามซึ่งมีหนังสือเดินทางและต่อมาถูกกระทรวงการต่างประเทศเพิกถอนหนังสือเดินทาง เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับเรื่องจากกระทรวงการต่างประเทศแล้วให้เร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทันที อย่าให้เกิดความล่าช้าในกรณีดังกล่าว” พล.ต.อ.สมยศกล่าวย้ำ
ด้าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันนี้ได้มอบหมายจับ จำนวน 60 คดีให้แก่ ผบช.สตม.เพื่อไปดำเนินการ และขอให้ไปกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่อย่าให้บกพร่องโดยเด็ดขาด และให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน เฝ้าระวังการเดินทางเข้าออกประเทศด้วยเครื่องบิน โดยให้ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด