รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช. เตรียมประสานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการขอตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เร่งรวบรวมหลักฐานขอหมายจับอดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 กรณีมีความเชื่อมโยงกับชายชุดดำเมื่อปี 53
วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ศ ช่วยราชการ บช.น. เปิดเผยภายภายหลังการประชุมความมั่นคงว่า การชุมนุมที่แสดงออกทางการเมือง หรือแสดงสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช. หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่า กรณีที่มีการยื่นหนังสือหรือมีการกล่าวในเชิงสัญลักษณ์ และมีการต่อต้านการปฏิบัติงานของสถานทูตสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่การต่อต้าน คสช. หากการออกมาแสดงสัญลักษณ์ที่ไม่ขัดต่อ คสช. หรือกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะไม่ดำเนินการ ส่วนนโยบายของหัวหน้าคณะ คสช.ที่เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงความรุนแรง และในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งจะเน้นเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิงในการควบคุมสถานการณ์ หากมีการควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ เจ้าหน้าที่จะต้องปรับทัศนคติให้ตรงกันก่อนที่จะปล่อยตัว ส่วนหมายจับที่ออกไปแล้ว หัวหน้าคณะ คสช.ได้เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทำการจับกุมบุคคลตามหมายจับทันที รวมทั้งบุคคลที่ขัดคำสั่งของคณะ คสช. หรือคดีอื่นๆ ที่มีการออกหมายจับทุกคดีโดยไม่เลือกปฏิบัติกับฝ่ายใด จะต้องปฏิบัติต่ทุกฝ่ายเช่นเดียวกัน เพื่อความเสมอภาคทางกฎหมาย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีนายจักรภพ เพ็ญแข มีหมายจับแรกในพื้นที่ สน.สามเสน เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 50 เหตุหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายจับ และพนักงานอัยการมีความเห็นให้สั่งฟ้อง โดยจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งไปที่กองการต่างประเทศ และจะส่งต่อไปยังอัยการสูงสุด และจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งต่อไปที่กองการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับนายจักรภพ กรณีมีความเกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามหรือมีการจัดเตรียมอาวุธสงคราม ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนในการดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อที่จะขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเช่นเดียวกัน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ส่วนการออกหมายจับ พล.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 กรณีมีความเชื่อมโยงกับชายชุดดำเมื่อปี 53 จะต้องสอบสวนและดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนการต่อต้านที่ในเชิงสัญลักษณ์ในอาทิตย์ที่ผ่านมา เชื่อว่าการแสดงดังกล่าวเป็นการแสดงออกเพื่อให้คณะ คสช.เข้าใจว่ารู้สึกเช่นไร ซึ่งไม่อยากใช้คำว่ากลุ่มต่อต้าน แต่เป็นกลุ่มที่มีความคิดเห็นต่าง ที่ต้องการแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงอยากจะบอกว่าไม่ว่าจะแสดงเชิงสัญลักษณ์หรือมีการต่อต้านการทำงานต่างๆ ของรัฐ จะมีการบันทึกภาพ และจะมีการส่งภาพถ่ายมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แน่นอน
วันเดียวกัน ศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับ นายสมเจตน์ คงวัฒนะ หรือสม ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 77/2557 และประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 59/2557 ซึ่งมีพยานหลักฐานที่เห็นว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดอาญา มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด เจ้าหน้าที่จึงออกหมายจับตามกฎหมายทันที