หนุ่มอดีตโบรกเกอร์แฉข้อมูลบ่อน “นัมเบอร์วัน” พื้นที่ สน.วังทองหลาง มีนักธุรกิจใหญ่ 2 รายลงขัน 140 ล้านบาท ชี้ตนเองเคยเข้าไปควบคุมงานก่อสร้างเมื่อปี 53 ไปรู้ข้อมูลข้อมูลนักธุรกิจ 2 รายนี้ มีการฟอกเงินจนตนเองถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ยันมีหลักฐานเด็ดไม่กลัวถูกฟ้องหรือทำร้ายร่างกาย โยงนายตำรวจระดับนายพลมีเอี่ยว 3 นาย และดารานักแสดงจำนวนหนึ่ง
คลิกเพื่อรับชมคลิป...
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายธนกฤต ตั้งศิริเจริญ อายุ 38 ปี อดีตตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วีรยุทธ ไชยสุระ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์และมอบเอกสารข้อมูลผู้ถือหุ้นในบ่อนการพนัน “นัมเบอร์วัน” ตั้งอยู่ภายในอาคารสปอร์ตคลับ บริษัท นัมเบอร์วันไดร์ฟวิ่งเลนจ์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 19/7 ซอยรามคำแหง 39 (ซอยสหการประมูล) ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. บ่อนที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจบุกเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายธนกฤตกล่าวว่า มีนักธุรกิจ 2 รายที่ร่วมลงทุนเพื่อเปิดบ่อนการพนันแห่งนี้โดยลงขันกันเป็นเงิน 140 ล้านบาท ตนได้เข้าไปดูแลควบคุมการก่อสร้างเมื่อปี 2553 จากนั้นได้สอบเป็นโบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง พบความผิดปกติว่านักธุรกิจทั้ง 2 รายมีผู้ถือหุ้นแทน หรือนอมินีในตลาดหลักทรัพย์ เข้าข่ายกระทำการฐานฟอกเงิน และเมื่อนักธุรกิจทั้งสองรู้ว่าตนทราบเรื่องแล้วจึงทำร้ายร่างกายตนด้วยการช็อตไฟฟ้าที่ศีรษะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2556 จนต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่นานหลายเดือนก่อนจะลาออกจากงาน
นายธนกฤตกล่าวต่อว่า จากนั้นตนจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ลุมพินี แต่คดีก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ นอกจากนี้ได้เข้าร้องทุกข์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับนำข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการฟอกเงินดังกล่าวไปมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย
ส่วนสาเหตุที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้และไม่กลัวว่าจะถูกทำร้ายอีกหรือถูกฟ้องกลับ เพราะมั่นใจว่ามีหลักฐานที่สามารถเอาผิดนักธุรกิจทั้ง 2 คนนี้ได้อย่างแน่นอน และหลักฐานต่างๆ ยังเชื่อมโยงถึงนายตำรวจระดับนายพลอีก 3 นาย และดารานักแสดงอีกจำนวนหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ด้าน ร.ต.ท.วีรยุทธกล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการเข้าร้องทุกข์เพื่อขอให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งตามขั้นตอนก็จะรับเรื่องไว้ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป