กองปราบติดตามจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากบดาน จ.สุราษฎร์ธานี หลังก่อคดีฆ่ายกครัวเพื่อล้างแค้นที่มาหลอกลวงญาติซื้อรถไถแล้วขอยิมนำไปขายต่อ ด้านผู้ต้องหาอีกรายที่ร่วมก่อเหตุฮึดสู้ยิงสวนตำรวจขณะปิดล้อมจับกุมถูกวิสามัญเสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 51 หลังหนีกบดานที่เขาแผงม้า จ.ลพบุรี
วันนี้ ( 20 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายสมปอง สุขสลุง อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 3 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 305/2551 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างโหดร้ายทารุณ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาเกาะสมุย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551 เกิดเหตุคนร้ายฆ่า นายไพรัตน์ จักร์กระเวน อายุ 40 ปี นางสมัย อธิพงษ์ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา โดยนางสมัย กำลังตั้งครรภ์ และศพ ด.ญ.ปิยะพร เกตุพงษ์ อายุ 5 ปี ลูกติดของนางสมัย ที่เกิดกับสามีเก่าอย่างเหี้ยมโหด ก่อนหมกศพทิ้งไว้ในบึงน้ำกลางหุบเขา พื้นที่หมู่ 7 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เพื่ออำพรางคดี
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายสมปอง นายเทียม เพ็งสลุง และ นายหลง เพ็งสลุง จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 เอาไว้ จากนั้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 กำลังตำรวจภูธร จ.ลพบุรี สืบทราบว่า นายหลง หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บริเวณเขาแผงม้า หมู่ 5 ต.หนองยายโต๊ะ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี จึงเข้าปิดล้อมจับกุม แต่นายหลง กลับใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ กระสุนถูกนายหลง เสียชีวิต นอกจากนี้ได้ขยายผลติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือ ก่อนที่ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.จะสามารถจับกุมนายสมปอง ไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนนายสมปอง รับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง ส่วนสาเหตุเกิดจากความโกรธแค้นที่นายไพรัตน์ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างเก็บมันสำปะหลัง นำรถไถมาขายให้กับนายเทียม ซึ่งเป็นญาติกับตน ในราคา 1.7 แสนบาท แต่กลับมาขอยืมรถไถไปขายต่อให้กับผู้อื่น ภายหลังจึงออกอุบายหลอกให้ นายไพรัตน์ มาพบบริเวณที่เกิดเหตุ โดยไม่รู้ว่านายไพรัตน์ ได้พาครอบครัวมาด้วย จากนั้นนายหลง ได้ใช้ปืนลูกซองยิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนี โดยตนกลับมาที่บ้านพัก แล้วได้ไปอาศัยอยู่กับญาติ ที่ย่านรังสิต-ปทุมธานี
นายสมปอง ให้การอีกว่า ตนไม่ทราบว่าภรรยา และลูกสาวของนายไพรัตน์ ถูกสังหารด้วยเพราะหนีออกมาก่อน และจริงๆ แล้วมีเป้าหมายเพียงแค่นายไพรัตน์ เท่านั้น ที่มีปัญหาโกรธแค้นกัน และต่อมาจึงทราบข่าวว่า นายหลง ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสลุง ดำเนินคดีต่อไป