จับแก๊งเวียดฯ ตระเวนยกเค้านายจ้าง

หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 191 แถลงผลจับกุมแก๊งอาชญากรข้ามชาติ สัญชาติเวียดนาม ตระเวนยกเค้าร้านอาหารทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด โดยส่งนกต่อเข้าไปเป็นลูกจ้างก่อนชี้เป้า พร้อมนำทรัพย์ที่ได้มาโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก



วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.พิษณุ เพ็ชร์คำ รอง ผกก.สายตรวจ และ พ.ต.ท.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ สว. งานสายตรวจ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายบุย กว๊าง กวิ๊ง (BUI QUOC QUYNT) สัญชาติเวียดนาม อายุ 27 ปี นายแดง เวียต ลอย (DANG VIAET LOI) สัญชาติเวียดนาม อายุ 34 ปี นายเหงียน ตู กวาง (NGUYEN TU QUANG) สัญชาติเวียดนาม อายุ 20 ปี นายหวง บา ไท (HOANG BA THAN) สัญชาติเวียดนาม อายุ 29 ปี นายเหงียน ฟู (NGUYEN PHU) สัญชาติเวียดนาม อายุ 34 ปี นายเหงียน วาน ทัง (NGUYEN VAN THANG) สัญชาติเวียดนาม อายุ 21 ปี นายฟาน วาน ฮวา (PHAN VAN HOA )สัญชาติเวียดนาม อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลางโทรทัศน์แอลอีดี ยี่ห้อซิงเกอร์ ขนาด 60 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง ชุดเครื่องปรับแต่งเสียง จำนวน 1 ชุด โทรทัศน์ แอลอีดี ยี่ห้อ ทีซีแอล ขนาด 40 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง โทรทัศน์แอลอีดี ยี่ห้อโตชิบา ขนาด 40 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง รถ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์วัน สีดำ ทะเบียน กตษ 959 นนทบุรี จำนวน 1 คัน จี้เพชร 2 ชิ้น และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ มูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านทา

พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก นายธรรมนูญ สุทิน อายุ 40 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่โดยสาร ซึ่งเป็นพลเมืองดีได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ได้มีกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนาม ประมาณ 4 คน จ้างโดยเหมาให้ไปส่งตามจังหวัดต่างๆ รอบเขตกรุงเทพมหานคร และเมื่อไปถึงก็จะบอกให้จอดรถรอ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็จะลงจากรถ แต่มีวัยรุ่น 1 คน นั่งรอในรถ สักครู่วัยรุ่นทั้งสามคนก็จะขนของประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้ามาที่รถ โดยบอกว่าเป็นการย้ายที่พักอาศัย ซึ่งวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ว่าจ้างตนในลักษณะดังกล่าวประมาณ 6 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. ของเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ว่าจ้างอีก โดยให้ไปส่งที่ร้านพรทิพย์โภชนา ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยเมื่อวัยรุ่นทั้งสี่คนไปถึงสถานที่ดังกล่าวแล้ว ก็กระทำเช่นเดิมอีก ซึ่งครั้งนี้วัยรุ่นทั้งสามคนได้ยกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า คือโทรทัศน์สี 2 เครื่อง และอุปกรณ์เครื่องปรับแต่งเสียง 1 ชุด และบอกเช่นเดิมว่าย้ายที่พักอาศัย หลังจากนั้น ได้ไปส่งกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่ห้องพักย่านถนนพระราม 9

พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ต่อมาเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 15 มิ.ย. วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้จ้างให้นายธรรมนูญไปรับจากห้องพักย่านถนนพระราม 9 เพื่อให้ไปส่งที่ถนนบางกรวย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจับกุม กระทั่งกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ยกโทรทัศน์ จำนวน 2 เครื่อง ขึ้นไปที่ห้องพักไม่มีเลขที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามเข้าไปขอตรวจค้นที่ห้องดังกล่าวพบ นายบุย กว๊าง กวิ๊ง นายแดง เวียต ลอย นายเหงียน ตู กวาง นายหวง บา ไท นายเหงียน ฟู นายเหงียน วาน ทัง และพบโทรทัศน์จำนวน 2 เครื่อง อยู่ภายในห้องพักดังกล่าว

พ.ต.ท.ชินวุฒิ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายบุย กว๊าง กวิ๊ง นายแดง เวียต ลอย นายเหงียน ตู กวาง สารภาพว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันกับนายเฟ๊า ซึ่งหลบหนีไปได้ โดยจ้างนายธรรมนูญ ให้ขับรถแท็กซี่ ไปส่งที่ร้านพรทิพย์โภชนา เพื่อทำการลักทรัพย์สินของทางร้านจริง โดยเมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้ว จะนำของทั้งหมดไปพักไว้ที่ห้องดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะให้นายไทล์ หรือชื่อตามเฟซบุ๊ก คือ Tai Lehuy ถ่ายภาพทรัพย์สินที่ขโมยมา นำไปโพสต์ที่เฟซบุ๊กเพื่อขายให้กับนายหวงทยา ไท นายเหงียน ฟู นายเหงียน วานทัง และกลุ่มชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในไทย

พ.ต.ท.ชินวุฒิ กล่าวอีกว่า กลุ่มคนร้ายชาวเวียดนามกลุ่มนี้ เป็นลักษณะเป็นกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีนายบุยกว๊าง กวิ๊ง เป็นหัวหน้า โดยจะทำกันเป็นขบวนการ โดยจะตระเวนไปสมัครงานตามร้านอาหารตามในจังหวัดต่างๆ จากนั้นก็จะทำการชี้เป้าเพื่อให้พวกของตนมาทำการลักทรัพย์สินของนายจ้าง ทั้งนี้ อยากประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างที่จะรับลูกจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงาน ให้ตรวจสอบประวัติการทำงาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะตามมา และผู้ที่เคยถูกชาวเวียดนามกลุ่มนี้ลักทรัพย์ สามารถเดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สิน และชี้ตัวผู้กระทำผิดได้ที่ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเคหสถาน ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ก่อนนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป