สน.สุทธิสาร แถลงข่าวจับกุมแก๊งลักจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว ผกก.สน.สุทธิสาร และ พ.ต.ท.อัครวัฒน์ พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.สุทธิสาร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายมาโนช ทัศนภาพ อายุ 46 ปี, นายสมคิด แสงจันทร์ อายุ 33 ปี, นายอาทิตย์ แสงจันทร์ อายุ 22 ปี, นายสราวุธ ธิต้ะ อายุ 25 ปี, นายอังคาร ทองจันทร์ทึก อายุ 20 ปี, นายสำเริง เนตรคำ อายุ 26 ปี, น.ส.วิไลวรรณ ศรีปัญญานนท์ อายุ 41 ปี, นายสมพร มัดทะปานัง อายุ 29 ปี, นางหนึ่งฤทัย ศรีวิไล อายุ 40 ปี และนายทวยอ่อง อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลางป้ายทะเบียนจักรยานยนต์ ทะเบียน 2 กบ 9653 กรุงเทพมหานคร, รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว ทะเบียน บท 674 ตาก, รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บบ 2993 กำเเพงเพชร, โทรศัพท์มือถือไอโฟน 4, สมุดบัญชีรายการรถที่โจรกรรมมาขายจำนวน 3 เล่ม และจักรยานยนต์ 16 คัน
พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่จับกุมนายอาณัติได้ในข้อหาเสพยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์-เอ็กซ์ สีส้ม ทะเบียน 2 กบ 9653 กทม. ที่บริเวณหลังวัดกุนนที ซ.อินทามระ 59 แขวงและเขตดินแดง กทม. จากนั้นนายอาณัติได้นำจักรยานยนต์ไปขายต่อให้กับนายมาโนชในราคา 10,000 บาท โดยผ่านคนกลางคือนางหนึ่งฤทัย ทางเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนางหนึ่งฤทัยมาสอบถาม โดยนางหนึ่งฤทัยให้การว่าได้นำรถคันดังกล่าวไปขายให้นายมาโนช ที่บ้านเลขที่ 45 ม.2 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามจับกุมตัวนายมาโนชได้ที่บ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้นพบป้ายทะเบียน 2 กบ 9653 กทม.อยู่ที่ใต้โต๊ะของบ้านหลังดังกล่าว และพบผู้ต้องหาอีก 8 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าป้ายทะเบียนรถที่พบนั้นเป็นของจักรยานยนต์ที่ขโมยมาจริง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้
พ.ต.อ.ปรีชากล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าจักรยานยนต์ทั้งหมดจะถูกขนส่งโดยจะใช้รถกระบะทั้งสองคันในการขนส่ง รถกระบะหนึ่งคันจะบรรทุกจักรยานยนต์ได้ 6 คัน จากนั้นจะทำการอำพรางโดยการกาบมะพร้าวเทปิดทับและใช้ผ้าใบคลุมทับอีกชั้นเพื่อนำไปขายต่อที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก และจะถูกส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
จากการสอบนายมาโนชรับสารภาพว่าตนจะเป็นนายหน้ารับจำนำจักรยานยนต์ แต่เมื่อรถหลุดจำนำตนก็จะนำไปขายต่อ และตนได้เคยให้เงินลูกน้องไปดาวน์รถจากไฟแนนซ์เพื่อนำมาให้ตนไปขายต่อ นอกจากนี้ ตนเคยรับซื้อจักรยานยนต์ในราคา 2 หมื่นบาท และจะนำไปขายต่อในราคา 2.3 หมื่นบาทเพื่อเอากำไร แต่ตนไม่ทราบว่าในจำนวนรถที่ตนรับซื้อไว้เป็นรถที่ถูกขโมยมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป