บริษัทออแกไนเซอร์เจ้าของสิทธิประกวดมิสเอิร์ธ ฟ้องแพ่ง “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” พิธีกรชื่อดัง อ้างสิทธิจัดการประกวดมิสเอิร์ธซ้ำซ้อน เรียกค่าเสียหาย 48 ล้าน และขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว
ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) น.ส.กัลช์ฎาภรณ์ ศิริเยี่ยม กรรมการบริษัท ออกาไนเซอร์ ไอคิว จำกัด บริษัทที่ได้รับสิทธิจัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ประจำปี 2556-2560 (Miss Earth Final) พร้อมด้วย น.ส.ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ หรือ น้องพอลลี่ รองอันดับ 2 มิสเอิร์ธ ประจำปี 2013 (Miss Earth water) และทนายความ เข้ายื่นฟ้องนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรชื่อดัง เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัทฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 48 ล้านบาท จากการใช้สิทธิจัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2014 โดยไม่สุจริต ทำให้โจทก์ซึ่งปัจจุบันได้รับสิทธิจัดประกวดแต่เพียงผู้เดียวได้รับความเสียหาย เนื่องจากจำเลยทั้งสองอ้างเป็นเจ้าของสิทธิจัดการแถลงข่าวประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2014
ทั้งนี้ โจทก์ได้ยื่นคำขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้จำเลยนำชื่อการจัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2014 ซึ่งปัจจุบันเป็นสิทธิของโจทก์ ไปใช้ชื่อพ่วงในการประกวดคัดเลือกตัวแทนมิสแกรนด์ 2014 ที่จำเลยเตรียมจะจัดการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดี และนัดพร้อมคู่ความในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล น.ส.กัลช์ฎาภรณ์ เปิดเผยพร้อมแจกเอกสารระบุรายละเอียดที่มาการฟ้องคดีว่า นายณวัฒน์เคยติดต่อขอซื้อสิทธิจัดประกวดมิสเอิร์ธกับทางบริษัทตั้งแต่เดือน มี.ค. 2556 โดยได้เสนอผลประโยชน์ให้จำนวนมาก แต่ตนไม่ได้ขายสิทธิให้ และไม่ให้นำไปรวมกับการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์โดยเด็ดขาด เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในการจัดประกวดอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่านายณวัฒน์ได้แถลงข่าวจัดการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และการประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2014 โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของสิทธิจัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ ประจำปี 2014 ทั้งที่ทราบมาตลอดว่าสิทธิในการจัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์เป็นของบริษัทฯ โดยชอบด้วยกฎหมาย ตนจึงได้ส่งใบรับรองสิทธิการจัดประกวดและเอกสารขอให้หยุดการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิการจัดงานและการคัดเลือกตัวแทนมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2014 พร้อมทั้งขอให้หยุดกระทำการประชาสัมพันธ์ว่าเป็นผู้มีสิทธิส่งตัวแทนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธในระดับนานาชาติ แต่นายณวัฒน์กลับยืนยันจะจัดการประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ต่อไป และปฏิเสธแสดงเอกสารสิทธิให้ทราบ โดยอ้างว่าเป็นความลับทางธุรกิจ จึงนำเรื่องมาฟ้องคดีต่อศาล
น.ส.กัลช์ฎาภรณ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางบริษัท ออกาไนเซอร์ฯ ได้รับความเสียหายมาก เนื่องจากได้มีการเจรจาทางธุรกิจกับผู้สนับสนุนการประกวดไปแล้ว และมีกำหนดการแถลงข่าวจัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นทำให้ผู้สนับสนุนไม่มั่นใจ ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางบริษัท ออกาไนเซอร์ฯ ได้จัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ตามกฎกติกาของสำนักงานใหญ่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ไม่ได้ผิดข้อตกลงใดๆ แต่ไม่มั่นใจว่าคู่กรณีมีสิทธิซ้ำซ้อนหรือไม่ จึงขอให้คู่กรณีนำเอกสารสิทธิมาแสดง อย่างไรก็ตาม หากทางคู่กรณีติดต่อขอไกล่เกลี่ยก็ยินดีที่จะเจรจากัน
ภายหลัง นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลแพ่งได้มีคำสั่งยกคำร้องขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อคุ้มครองชั่วคราวที่ห้ามนายณวัฒน์ และบริษัทฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น จำกัด จัดประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2014 โดยศาลเห็นว่าคำขอดังกล่าวอยู่ในคำฟ้องคดีหลักแล้ว หากศาลมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกไปแล้วก็เสมือนเป็นการพิพากษาในคดีหลัก ดังนั้นจึงให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีตามปกติ ซึ่งศาลนัดในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าวจะยื่นคำขอเพิ่มเติม ให้ศาลพิจารณาห้ามจำเลยส่งตัวแทนที่ได้จากการประกวดในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธในเวทีระดับนานาชาติต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากศาลยกคำร้องขอไต่สวนคุ้มครองชั่วคราว จำเลยก็มีสิทธิ์จัดประกวดในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ใช่หรือไม่ นายกันตเมธส์ กล่าวว่า เวลานี้ศาลยังไม่มีคำสั่งห้าม แต่ถ้าสุดท้ายแล้วการพิจารณาคดีดังกล่าว ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีจะเท่ากับว่าการดำเนินการใดๆ ของจำเลยเกี่ยวกับการจัดประกวดจะเป็นความผิดในการละเมิดต่อโจทก์ ซึ่งสามารถเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมในภายหลังได้