เกิดอุบัติเหตุท้ายกระบะรถบรรทุกเกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงขณะกำลังจะเททรายเพื่อปูพื้นฟุตปาธบนถนนศรีนครินทร์ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าสูงกว่า 10 เมตร ล้มระเนนาดถึง 22 ต้น ระยะทางยาว 1 กม. ทำให้ไฟฟ้าภายในซอยศรีนครินทร์ 18 ดับทั้งซอย คาดจะทำการกู้เสาไฟฟ้าได้ทั้งหมดได้ในเวลาเที่ยงคืน
วันนี้ (11 มิ.ย.) ร.ต.ท.จักราวุธ ดอนประจำ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกเกี่ยวสายไฟฟ้าล้มหลายต้นบนถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเขตบางกะปิไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเสาไฟฟ้าอยู่ริมถนนขนาดสูง 12 เมตร ล้มลงจำนวน 22 ต้น เป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ทั้งนี้มีบางส่วนล้มไปถูกอาคารที่กำลังก่อสร้างได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 66-2540 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนฟุตปาธ โดยมีนายรังสรร บุตนุ อายุ 55 ปี พนักงานขับรถยืนรอให้การอยู่
จากการสอบสวนนายรังสรรให้การว่า ตนเป็นพนักงานของบริษัท วิจิตรภัณฑ์ ก่อสร้าง จำกัด ที่รับเหมาปูพื้นฟุตปาธของสำนักงานเขต กทม. ขณะเกิดเหตุตนได้ขับรถคันดังกล่าวถอยขึ้นบนฟุตปาธเพื่อเตรียมจะเททรายลงจากกระบะท้าย แต่เมื่อยกกระบะท้ายขึ้นทำให้ไปเกี่ยวกับสายไฟฟ้าแรงสูงจนเป็นเหตุทำให้เสาไฟล้มติดต่อกันจำนวนหลายต้น
นายอรรธวุฒิ วรธรรมดุษฎี ผอ.กองบริการผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง เขตบางกะปิ กล่าวว่าอุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้ไฟฟ้าดับภายในซอยศรีนครินทร์ 18 ซอยเดียวเท่านั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าภายในซอยศรีนครินทร์ 18 ทั้งหมดแล้ว สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ภายในเวลา 17.00 น. ส่วนการกู้เสาไฟฟ้าที่ล้มและติดตั้งเสาไฟคาดว่าน่าจะเสร็จภายในเที่ยงคืนของวันนี้
ร.ต.ท.จักราวุธกล่าวต่อว่า จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทราบว่ามูลค่าของความเสียหายเฉพาะเสาไฟฟ้าจำนวน 22 ต้นเป็นเงิน 770,000 บาท และค่าหม้อแปลงไฟฟ้าอีก 200,000 บาท เบื้องต้นทางผู้รับเหมาจะยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้แก่การไฟฟ้านครหลวง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย ก่อนเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท
