ตำรวจประชาสัมพันธ์รณรงค์ตามโครงการปฏิบัติการคืนพื้นผิวจราจร เพื่อประชาชนตามนโยบาย 5 จริง ประกอบด้วย ยกจริง ล็อกจริง จับจริง ขังจริง และสุภาพจริง โดยตรวจ 2 จุด คือ ถนนพระราม 4 (แยกคลองเตย) และแยกพระราม 9
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) รับผิดชอบงานจราจร พร้อมด้วย พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการจราจร หรือ บก.จร. ได้นำรถยกและรถขยายเสียงลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ และสุ่มตรวจ การรณรงค์ตามโครงการปฏิบัติการคืนพื้นผิวจราจรเพื่อประชาชน ตามนโยบาย 5 จริง ประกอบด้วย ยกจริง ล็อกจริง จับจริง ขังจริง และสุภาพจริง โดยตรวจ 2 จุด คือ ถนนพระราม 4 (แยกคลองเตย) และแยกพระราม 9
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวว่า แยกถนนพระราม 4 ตลาดคลองเตย และแยกพระราม 9 เป็นจุดที่การจราจรติดขัดและรถส่วนใหญ่จอดไม่เป็นระเบียบ แต่จากการรณรงค์มา 3 วัน พบการกระทำผิดน้อยลงไม่พบรถจอดบนผิวจราจร ทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับจุดอื่นๆ ที่มีการรณรงค์โดยเฉพาะถนน 10 เส้นทางหลัก อาทิ บริเวณสะพานขาว ตลาดโบ๊เบ๊ ปัญหาการกระทำผิดลดลงเช่นกัน เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรณรงค์และส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะลงพื้นที่ตรวจในเวลากลางคืน โดยเฉพาะตามสถานบริการต่างๆ ที่ปล่อยให้มีการจอดในพื้นที่ห้ามจอด และในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ตำรวจนครบาลจะประชุมหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ไขปัญหารถจักรยานยนต์ที่นำขึ้นไปจอดบนทางเท้า ตลอดจนร้านค้าหาบเร่แผงลอยต่างๆ ที่วางขายในพื้นที่หวงห้าม ส่งผลกระทบต่อการจราจร จากนั้นจะเชิญกรมการขนส่งทางบก ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหารถตู้ต่อไปด้วย
ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวว่า สำหรับรถที่จอดในมีเครื่องหมายห้ามจอด หรือจอดในลักษณะกีดขวางการจราจร หรือบนทางเท้า ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ส่วนกรณีรถถูกยก ต้องเสียค่าปรับเพิ่ม โดยรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป 1,000 บาท รถบรรทุก 4 ล้อ และ 6 ล้อ 700 บาท และรถอื่นๆ 500 บาท เป็นต้น