ดีเอสไอ-ทหาร คุมตัว “สุเทพ เทือกสุบรรณ” และแกนนำ กปปส. รายงานตัวอัยการ ก่อนดำเนินการแจ้งข้อหาและพิจารณาให้ประกัน
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.10 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ทหารและดีเอสไอได้คุมตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยแกนนำกลุ่ม กปปส. อาทิ นายเอกณัฎ พร้อมพันธุ์ , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย , นายถาวร เสนเนียม , พระพุทธอิสระ ฯลฯ รวมทั้งแกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย หรือ คปท. และแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งข้อกล่าวหาและทำบันทึกคำให้การของผู้ต้องหา ตามที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ยื่นขอหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวต่อศาลอาญาในข้อหากบฏและข้อหาอื่นๆรวม 8 ข้อหา ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ตามกฎอัยการศึก โดยมีคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษร่วมพิจารณากับพนักงานสอบสวนด้วย
โดยในวันนี้นายสุเทพมีสีหน้าเรียบเฉย โดยใส่เสื้อสีฟ้า ขณะที่แกนนำกปปส.คนอื่นๆพร้อมด้วยทนายความได้ทยอยเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่แกนนำทั้งหมดก็ใส่ชุดเสื้อผ้าตัวเดิมในวันที่ถูกควบคุมตัวเช่นกัน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เปิดเผยว่า วันนี้แกนนำ กปปส. ซึ่งเป็นกลุ่มแกนนำหลัก ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการครบทุกคน เพื่อรายงานตัวและให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในคดีกบฏ โดยข้อหาหลักจะเป็นคดีกบฎและข้อหาอื่นๆรวม 8 ข้อหา แต่คนที่มีข้อหามากที่สุดคือนายสุเทพ เพราะมีข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีสั่งสลายการชุมนุม นปช. เมื่อปี 2553 ด้วย ทั้งนี้ระหว่างที่พวกตนและทางแกนนำกปปส. ถูกคุมตัวอยู่ในค่ายทหาร ก็ได้รับการปฏิบัติและดูแลจากทหารเป็นอย่างดี เพียงแต่ไม่สามารถติดต่อบุคคลภายนอกได้ โดยติดตามข่าวสารจากหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เท่านั้น ซึ่งขั้นตอนหลังจากรายงานตัวเสร็จก็หวังว่าจะได้รับประกันตัวและจะได้กลับบ้าน
ด้านนายนิติธร เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการในการนำตัวส่งฟ้องศาล โดยเบื้องต้นได้เตรียมยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาล และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะใช้หลักทรัพย์เท่าไหร่ในการประกันตัวสู้คดี ส่วนการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มีประกาศให้คดีความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 113 รวมทั้งคดีความที่ต่อเนื่องกันอยู่ในขอบเขตการพิจารณาของศาลทหาร แต่คดีของแกนนำ กปปส.และ คปท.เกิดขึ้นก่อนที่จะมีประกาศของ คสช. ดังนั้นคดีนี้จึงอยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาตามเดิม
ขณะที่นายสวัสดิ์ เจริญผล เปิดเผยว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมบันทึกคำให้การของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในคดีที่อัยการสั่งฟ้องในข้อกบฏเสร็จสิ้นเรียบร้อยตามขั้นตอนแล้ว โดยตนได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 แสนบาท ต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน โดยเบื้องต้นทางดีเอสไอได้อนุญาตให้ประกันตัวนายสุเทพแล้ว ส่วนทางดีเอสไอจะนัดส่งตัวให้อัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาเมื่อใดนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งวันเวลาที่ชัดเจน แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะนัดหมายเพื่อส่งฟ้องศาลภายใน 30 วัน
ด้านนายนันทศักดิ์ พูลสุข กล่าวว่า กระบวนการขั้นตอนในครั้งนี้ยังไม่ใช่การส่งตัวฟ้องในชั้นอัยการ เพียงแต่อัยการได้อำนวยความสะดวกในด้านสถานที่ เพื่อให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาและทำบันทึกคำให้การ ประกอบในสำนวนคดี ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวแกนนำ กปปส. มาส่งมอบให้ ซึ่งทางอัยการยื่นฟ้องนายสุเทพ เฉพาะข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีสลายการชุมนุมของกลุ่มนปช.เมื่อปี 2553 เท่านั้น โดยอัยการก็ไม่คัดค้านการประกันตัว ซึ่งให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ส่วนข้อหาร่วมกันก่อกบฏนั้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ดำเนินการสอบปากคำนายสุเทพเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพนักงานสอบสวนดีเอสไอ อนุญาตให้ประกันตัวนายสุเทพ ในวงเงิน 1 แสนบาท สำหรับผู้ต้องหา กปปส.คนอื่น ๆ พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ กำลังดำเนินการ
ภายหลังพนักงานสอบสวนดีเอสไอเปิดเผยว่า ได้ให้ประกันแกนนำ กปปส.ทั้งหมด 13 ราย ในวงเงินคนละ 1 แสนบาท และนัดให้มารายงานตัวกับพนักงานอัยการคดีพิเศษ ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
สำหรับผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้แจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ ทั้งหมด 13 ราย ประกอบด้วย 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. 2.นายถาวร เสนเนียม 3.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 4.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 5.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 6.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 7.นางทยา ทีปสุวรรณ 8.นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก 9.นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร 10.นายชุมพล จุลใส 11.นายนิติธร ล้ำเหลือ 12.นายสุริยะใส กตะศิลา และ13.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากบฏและข้อหาอื่นๆรวม 8 ข้อหาเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีในส่วนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายชุมพล จุลใส ที่ก่อนหน้านี้ทางอัยการได้มีคำสั่งให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ตาม ป.อาญา 135/1 กรณีนำมวลชนไปบริษัทกสท.ฯ เขตบางรัก ทำให้ระบบอินเตอร์เน็ตล่มนั้น ทางดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้งสองคนทราบตามขั้นตอนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธปืนประจำกายและเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน บก.น.2 ประมาณ 50 นาย เดินทางรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด