ความคืบหน้าคดีระเบิดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงครามเผยกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุถูกตัดสายไฟ สั่งล้อมคอกตั้งจุดตรวจโดยรอบหวั่นเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (16 พ.ค.) พ.ต.ท.นริศ ปรารถนาพร รอง ผกก.สส. สน.สำราญราษฎร์ กล่าวถึงกรณีมีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่บรรดาการ์ด กปปส.ที่บริเวณแยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. ทำให้นายนรายศ จันทร์เพชร อายุ 21 ปี การ์ดเสียชีวิตในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม และเวลาใกล้เคียงกันยังยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตพระนคร จำนวน 3 ลูกไม่ห่างกัน ลูกแรกตกบริเวณอาคารพาณิชย์ของโรงเรียนดวงใจสอนภาษาต่างประเทศ ไม่มีผู้บาดเจ็บ ลูกที่ 2 ตกที่โรงแรมบ้านดินสอ ทะลุหลังคาชั้น 4 ของห้องพัก เลขที่ 402 มีผู้เช่าห้องบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย และลูกสุดท้ายตกบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งถนนดินสอ มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บอีกหลายรายในพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อเวลา 02.50 น.วานนี้ว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาสั่งการให้มีการตั้งด่านจุดตรวจรอบพื้นที่รับผิดชอบ3 จุด คือ แยกสำราญราษฎร์ ช่วงถนนดินสอ และช่วงถนนตะนาว โดยห่างจากแนวพื้นที่การชุมนุมประมาณ 300 เมตร ด้านของคดีความดูในส่วนของผู้เสียชีวิตมี 2 ราย นายสมควร นวนขนาย อายุ 51 ปี และชายไทยไม่ทราบชื่อและอายุ เป็นผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ บาดเจ็บรายอื่นปลอดภัยดีเนื่องจากในพื้นที่เป็นจุดที่ระเบิดตก ส่วนหลักฐานต่างๆ ทางกองพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมไปตั้งแต่เมื่อวาน (16 พ.ค.) เพื่อตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ รอง ผกก.สส. สน.ชนะสงคราม กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ตรวจสอบพยานแวดล้อม และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบทั้งหมด เบื้องต้นกล้องวงจรปิดโดยรอบถูกตัดสายไฟทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ จึงหาพยานบุคคลที่อาจเป็นคนร้ายนอกจากนี้ยังมีการตั้งด่านจุดตรวจบริเวณรอบพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป
ขณะที่เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น.ดูแลงานป้องกันปราบปราม เปิดเผยถึงมาตรการตั้งด่านเพื่อป้องกันเหตุร้ายจากผู้สร้างสถานการณ์ในบริเวณที่มีการชุมนุมว่า ทางตำรวจได้มีการปรับแผนใหม่หมด โดยแต่ละด่านให้ขยับเข้าใกล้จุดที่มีการชุมนุมมากว่าเดิมไม่เกิน 100 เมตร โดยมีด่านมั่นคง 34 ด่าน ใช้กำลังด่านละ 24 คน ชุดเคลื่อนที่เร็ว 22 ชุด ชุดละ 12 คน และด่านเคลื่อนที่ 67 จุด มีการสับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายจุดในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เชื่อว่าจะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้ในระดับหนึ่ง
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่การชุมนุมนั้นการป้องกันและตั้งด่านในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิทาง พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 และพล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 จะประชุมวางแผนร่วมกัน ส่วนที่ถนนอักษะนั้น พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 จะร่วมกับ บช.ภ.7 ในการดูแลพื้นที่ เน้นการตรวจจับอาวุธ เพื่อป้องกันเหตุร้ายและไม่ให้คนลอบเข้ามาก่อเหตุกับผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม