เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ด.ต.สิทธิโชค ที่เสียชีวิตขณะบุกจับกุมผู้ค้ายาเสพติด พร้อมมอบเสื้อเกราะกันกระสุนให้ สภ.เมืองสระแก้วอีก 5 ตัว
วันนี้ (13 พ.ค.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เดินทางไปที่ สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เพื่อมอบเสื้อเกราะกันกระสุนของสำนักงาน ป.ป.ส. ให้แก่ สภ.เมืองสระแก้ว จำนวน 5 ตัว สำหรับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้าน นางนันทนา โพธิ์ดี ภรรยา ด.ต.สิทธิโชค โพธิ์ดี ที่บ้านเลขที่ 19/1 ถ.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เพื่อมอบเงินช่วยเหลือในนามสำนักงาน ป.ป.ส. จำนวนทั้งสิ้น 300,000 บาท
จากกรณี ด.ต.สิทธิโชค โพธิ์ดี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสระแก้ว ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อวันที่ 9 พ.ค.57 ที่ผ่านมาโดยแบ่งเป็นเงินจาก 1.กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน 100,000 บาท และ 2. เงินช่วยเหลือเฉพาะตัวตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนเงินรางวัลคดียาเสพติด จำนวน 200,000 บาท
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในนามของสำนักงาน ป.ป.ส. ตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของ ด.ต.สิทธิโชค โพธิ์ดี ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านยาเสพติดอย่างทุ่มเท เสียสละ และเสี่ยงอันตรายมาโดยตลอด จนกระทั่งเสียชีวิตในครั้งนี้ จากการกระทำอย่างอุกอาจของผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ได้มีการปูนบำเหน็จ 7 ขั้น 5 ชั้นยศ จากยศดาบตำรวจ เป็นพันตำรวจโท
สำหรับสำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดได้รับอันตรายในขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ป.ป.ส. จะมีเงินช่วยเหลือใน 2 ส่วน ส่วนแรก คือ เงินจากกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จะช่วยเหลือในกรณีเสียชีวิตไม่เกิน 100,000 บาท กรณีบาดเจ็บทุพพลภาพ หรือเสียอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใด ไม่เกิน 70,000 บาท กรณีบาดเจ็บจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน ไม่เกิน 40,000 บาท กรณีบาดเจ็บในลักษณะอื่นๆ ไม่เกิน 20,000 บาท และอีกส่วนคือ เงินช่วยเหลือเฉพาะตัวตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนเงินรางวัลคดียาเสพติด จะจ่ายให้กรณีเสียชีวิต หรือบาดเจ็บทุพพลภาพต้องออกจากราชการ ไม่เกิน 200,000 บาท กรณีได้รับอันตรายสาหัสจนเสียอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใด ไม่เกิน 100,000 บาท กรณีได้รับอันตรายแก่ร่างกายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ หรืออันตรายสาหัสต้องได้รับการรักษาเกินกว่า 20 วัน ไม่เกิน 40,000 บาท